แชร์สิ่งดีๆ ไว้เรียนรู้ต่อ
ฟังบทความพูดได้ ที่นี่ค่ะ
ในยุคนี้เราไม่จำเป็นที่ต้องมีรายได้ทางเดียว และ ความเป็นแม่ก็เป็นโอกาสดีที่สามารถสร้างรายได้จากที่บ้านได้อีกด้วย
พวกเราโชคดีมากค่ะ เพราะเรามีช่องทางหารายได้เสริมหลากหลายวิธีเลยทีเดียว
Facebook เป็นหนึ่งช่องทางที่สำคัญ ที่มีบทบาทมากในตอนนี้
เฟสบุคเป็นแหล่งรวม “คน” ที่มากมายนับไม่ถ้วนเลยค่ะ
เมื่อมีคนรวมกันอยู่มากมายขนาดนั้น ต้องมีซักคนที่อาจจะเป็นลูกค้าของเราอยู่ด้วยเหมือนกัน
.
ยังไม่สายเกินไปที่จะเข้ามาศึกษาลู่ทางในห้างสีฟ้าแห่งนี้
เพราะอะไรทราบมั้ยคะ?
“จำนวนคน” ค่ะ จำนวนคนที่เข้ามาเดินเล่นในห้างเฟสบุคนี้ มีมากขึ้นทุกที
.
แล้วถ้าตอนนี้คุณยังไม่เริ่มต้น คุณรออะไรอยู่ล่ะคะ?
รอตลาดวายเพื่อคอนเฟิร์มความเชื่อที่ว่า เฟสบุคขายยาก มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว มันไม่ใช่ของเรา หรือ เพราะอะไรก็ตามที
ไม่มีประโยชน์ที่จะไปกังวลถึงตอนนั้น
ในเมื่อมันยังไม่เกิดขึ้น หรือ ถ้าเกิดขึ้นจริง เราก็คงมีตลาดดีๆมาให้เดินเล่นแห่งใหม่แล้ว
.
เพราะฉะนั้น ตอนนี้เรามาจับจองพื้นที่ทำเลงามๆ ในห้างเฟสบุคแห่งนี้กันดีกว่านะคะ
.
เอวาเริ่มต้นทำงานที่บ้านมาพักใหญ่ๆ แล้วค่ะ ธุรกิจแรกคือเป็นตัวแทนจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2559 เวลามันผ่านไปเร็วเหมือนกันนะคะ นับไปนับมาก็ 3 ปีกว่าแล้ว
.
และอยากบอกว่า การตัดสินใจในครั้งนั้น คือ ความโชคดีครั้งใหญ่ในชีวิตเลยก็ว่าได้ค่ะ
หลักๆ เลย คือ สามารถทำงานที่บ้านได้ ได้อยู่ใกล้ลูกตลอด
.
ในตอนแรกๆไม่รู้หรอกค่ะ ว่าจะหาเงินจากช่องทางนี้ได้ยังไง ก็คลำทางไปเรื่อยๆ เรียนรู้ คุยกับคนเก่งๆ จนทำได้ในที่สุด
มันไม่ได้ง่ายแบบคลิกเดียวก็ได้เงิน แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับคนมีความมุ่งมั่น ซึ่งนั่นก็เป็นพื้นฐานของคนที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้วนะคะ
.
ตอนนั้นที่เริ่มทำก็เพราะมองเห็นโอกาสกับงานนี้ เชื่อว่าจะสามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ให้ครอบครัว เริ่มต้นด้วยความคิดที่อยากขายของออนไลน์ให้ได้ เมื่อเวลาผ่านไป ทำไปทำมาเรื่อยๆ มันนำพาชีวิตของเอวามาไกลจากจุดเดิมมากๆ
.
ภารกิจของเอวา คือ ต้องสอนและแบ่งปันสิ่งที่ได้รับ สิ่งที่ได้เรียนรู้ระหว่างทาง ที่มีค่ามากมายมหาศาล ผ่านทางแฟนเพจครูเอวานี้ ที่เป็น Passion สำคัญของชีวิตที่ต้องจัดเวลามาทำเสมอ
.
เพื่อส่งต่อความรู้เรื่องการทำธุรกิจ และความรู้ด้านการพัฒนาตัวเอง ความรู้เหล่านั้นที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น การเงินดีขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น และทำให้วิธีการมองโลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
.
วันนี้เอวามีความตั้งใจที่จะมาแบ่งปันความรู้เรื่องการสร้างรายได้ผ่านเฟสบุคค่ะ กับ 10 ขั้นตอนสร้างรายได้ (หลายหลัก) ผ่านเฟสบุค ที่เคยมีผลลัพธ์มา ทั้งจากการเป็นตัวแทนจำหน่าย จากการเป็นครูผู้สอน และจากการขายของตัวเองในฐานะเจ้าของธุรกิจ
.
ถ้าคุณเป็นคุณแม่คนหนึ่งที่กำลังคิดอยากเริ่มต้นสร้างแฟนเพจเพื่อสร้างธุรกิจแล้วล่ะก็ ขอให้ทำตามทั้ง 10 ขั้นตอนนี้ดู เอวาจะสอนคุณตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ
1. ตัดสินใจก่อนเลยว่า...เราจะช่วยใคร
ในข้อแรก อยากให้มองถึง “คนที่น่าจะเป็นลูกค้า” ของเราให้ชัดเจนก่อนเลย
.
เพราะไม่มีสินค้าใดที่สามารถตอบโจทย์คนทุกคนได้ เพจก็เหมือนกัน ไม่มีเพจไหนที่ตอบโจทย์คนทุกคนได้ ไม่ใช่ทุกคนที่อ่านเพจเดียวกัน
เฟสบุคปรับแต่งฟีดข่าวให้เป็นความสนใจเฉพาะบุคคล (Personalized) อย่างดีเยี่ยมจริงๆ ไม่มีฟีดข่าวของใครที่เหมือนกันเลยแม้แต่คนเดียว
.
ในข้อแรกขอให้ตัดสินใจก่อนนะคะ ว่าเราอยากจะช่วยใคร?
.
การขาย มีความหมายเดียวกับคำว่า ช่วย (Sell = Help)
ช่วยให้ชีวิตเค้าดีขึ้น
ช่วยให้เค้าประหยัดขึ้น
ช่วยให้สะดวกขึ้น
ช่วยให้มีเวลามากขึ้น
ฯลฯ
.
คุณตั้งธงไว้ในใจว่าจะคุยกับคนกลุ่มนี้ จะช่วยคนกลุ่มนี้
จะด้วยเหตุผลว่า เพราะฉันก็เป็นคนกลุ่มนี้เหมือนกัน ฉันเข้าใจดี หรือด้วยเหตุผลว่า เพราะฉันเคยผ่านมาแล้ว ฉันเคยทำมาแล้ว ฉันเข้าใจดี ก็ได้ค่ะ
.
หลังจากนั้นก็ลองจินตนาการว่า กำลังเป็นคนคนนั้น
วันวันหนึ่ง ชีวิตเค้าเจออะไรบ้าง
เค้าน่าจะชอบอะไร เค้าไม่ชอบอะไร เค้ามีความท้าทายอะไรอยู่
เวลาไหนเค้าน่าจะทำอะไรบ้าง
พอเราเข้าใจเค้าแล้ว ทีนี้ก็สามารถคุยกับเค้าได้ถูกเรื่อง แล้วก็ถูกใจ ทำให้เค้าอยากฟังเราได้ค่ะ
2. เราช่วยทุกเรื่องไม่ได้ แต่เราช่วยในบางเรื่องได้
เพจของเราเกี่ยวกับเรื่องอะไรล่ะคะ? คนอ่านรู้ชัดเลยมั้ยว่า เข้ามาในเพจเราแล้วเค้าจะได้อะไร?
หลายคนติดอยู่ตรงนี้ เลยทำให้ยังไม่คิดเริ่มต้นซะที
วันนี้เอวาจะบอก 2 วิธีที่คุณสามารถใช้หา “เรื่อง” ที่เป็นแกนหลักของเพจได้ นั่นก็คือ....
.
1. เราชอบและถนัดเรื่องอะไร
เพราะการทำเพจนี่ไม่ใช่ทำกันแค่วันสองวันนะคะ เรียกว่าต้องให้เวลาอยู่กับมันเยอะพอสมควรเลยค่ะ
ถ้าเรื่องที่จะถ่ายทอดในเพจนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เราชอบ เราก็ไม่สามารถทำได้ตลอดรอดฝั่งหรอกค่ะ สิ่งนี้มันควรจะเป็นงานที่รักที่มีความสุขอยากพูดถึงตลอดเวลา
.
ความรู้ที่ถนัดอาจมาจากอาชีพ งาน ที่ทำมานาน สาขาที่เรียนจบมา มีคนชอบมาถามเรื่องนี้บ่อยๆ ถ้ามีคนอยากรู้เรื่องนี้ เค้าจะนึกถึงหน้าเราก่อนเลย
คือมันอาจจะไม่ได้เป็น passion หรืองานที่รักของคุณมากนัก (บางทีก็รู้สึกเบื่อด้วยซ้ำที่จะพูดถึงเพราะทำมานานจนชินก็ตาม)
.
แต่เรามีความรู้แน่นปึ้กในด้านนี้ไงคะ ดังนั้น เราจะเริ่มต้นถ่ายทอดได้ง่ายมากๆเลย
และเอวาเชื่อว่า จะต้องมีคนที่รักเรื่องเดียวกับเรา รับรองว่ามีคนอยากรู้เรื่องนี้แน่นอน เช่น นักเขียนหนังสือ Best Seller มาสอนวิธีการเขียนหนังสือให้ขายดี เป็นต้นค่ะ
.
2. เรื่องนั้นมีคนอยากรู้มั้ย
ถ้าอยากลองดูว่าเรื่องนี้มีตลาดต้องการมั้ย ลองไปที่ Pinterest อีกหนึ่ง social media แหล่งรวมคอนเทนต์ดีๆ ระดับโลกได้เลยนะคะ พิมพ์หาเลยค่ะว่าเรื่องนี้มีกระแสยังไงบ้าง
ถ้าหาแล้ว มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังอยากเล่าพอดี ก็จัดเลยค่ะ
เอวาได้รับประโยชน์และไอเดียดีๆ จากที่นี่เยอะมาก ลองเล่นดู รับรองว่าคุณจะเพลินใจได้ความรู้มากๆเลยค่ะ
3. แล้วเราจะเริ่มที่ตรงไหน
เอวาเริ่มต้นธุรกิจในเฟสบุคจากการเปิดแฟนเพจค่ะ
แต่ถ้าจะให้คุณออกสตาร์ทแบบง่ายสุดๆ เลยนะคะ ก็เริ่มจาก เฟสบุคส่วนตัวของเรานั่นแหละ ถ้าคุณอ่านบทความนี้ได้ แสดงว่าคุณมีเฟสบุคส่วนตัวอยู่แล้ว
ยังไม่ต้องสร้างแฟนเพจก็ได้ ใช้เฟสส่วนตัวนี่แหละ หน้าตาและวิธีการทำงานมันเหมือนกับแฟนเพจเกือบทุกอย่างเลยทีเดียว
.
ฝึกเขียน ฝีกพูด เริ่มต้นเพิ่มเพื่อน เพิ่มคนที่คิดว่าน่าจะเป็นผู้มุ่งหวังของเราทีละนิด
ยังไม่ต้องกังวลกับจำนวนเพื่อนมากนัก ยอดผู้ติดตามไม่ได้สำคัญเท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะความสัมพันธ์ที่ดีสำคัญมากกว่าจำนวน
.
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว เราค่อย convert โปรไฟล์ไปเป็นแฟนเพจ ก็ได้ กดแค่ไม่กี่ปุ่ม เพื่อนทั้งหมดนั้นก็จะมาเป็นคนที่กดไลค์เพจใหม่ของเราแบบอัตโนมัติ
หลังจากนี้เราจะมีบ้าน 2 หลังไปโดยปริยาย ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เพิ่มที่บ้านหลังไหนก็หลังนั้น ไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้วค่ะ
.
ถ้าทำแบบนี้ คุณก็จะไม่เครียดมาก สามารถเริ่มต้นได้ทันที ไม่ต้องรอให้พร้อม เพราะเฟสส่วนตัวเราก็มีอยู่แล้ว บางทีเฟสของคุณอาจมีเพื่อนเยอะอยู่แล้วก็ได้ หรือถ้าไม่เยอะก็ไม่เห็นเป็นไร
บางคนเค้ามีเพื่อนแค่ไม่ถึงพัน ยังขายของกันได้หลักแสน หลักล้านเลย “ความสัมพันธ์สำคัญกว่าจำนวน” จำไว้ให้ดีนะคะ
.
เมื่อธุรกิจเติบโตไประดับหนึ่งแล้ว
เอวาก็ยังคงแนะนำค่ะว่าควรมีแฟนเพจค่ะ เพราะมันสามารถยิงโฆษณาไปหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ Facebook ads คือ เครื่องมือสร้างธุรกิจที่สุดยอดของความทรงพลัง ห้ามพลาดตัวช่วยดีๆ ตัวนี้เด็ดขาดนะคะ
4. เขียนยังไงให้น่าอ่าน
มาถึงขั้นตอนสำคัญอันหนึ่งสำหรับคุณแม่ที่อยากสร้างตัวตนในเฟสบุคกันแล้วค่ะ มันก็มีวิธีการสื่อสารอยู่ 2 แบบค่ะ
หนึ่งก็คือ การเขียน สองก็คือ การพูด
ในเรื่องของการเขียน เราจะเขียนเก่ง เขียนดีได้ ก็ด้วยการฝึกฝน เท่านั้นค่ะ
คนที่มีชื่อเสียงเป็นเจ้าของแฟนเพจดังๆ ในตอนนี้ ก็เคยเริ่มต้นจากเขียนไม่เป็นมาก่อน ทุกคนเคยผ่านช่วงเวลาที่ไม่มีใคร Like ไม่มี Comment ไม่มี Share เลย กันทั้งนั้น
.
เพราะฉะนั้น อย่าท้อ อย่าหมดกำลังใจเด็ดขาด เอวาทำเพจมา 3 ปีกว่า เจอหมดค่ะ บางทีตั้งใจกับคอนเทนต์นี้มาก แต่แป้ก ไม่มีใครสนใจเลยก็มี บางคอนเทนต์เขียนแป๊บเดียว แต่โดนใจ ก็มีค่ะ
.
ถ้าจะให้สรุปว่าคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมควรมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เอวาขอแบ่งปัน 3 ข้อดังต่อไปนี้...
.
1. 2 บรรทัดแรกขอโดนๆ
ในฟีดข่าวของทุกคนมีโพสเยอะแยะไปหมดเลยในแต่ละวัน คอนเทนต์ของเรามีเวลาแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่คนตัดสินใจว่าจะเลื่อนผ่าน หรือ กดอ่านต่อ
2 บรรทัดแรก คือ ตัวตัดสินว่าเค้าจะอ่านคุณต่อดีมั้ย
.
ลองดูวิธีพาดหัวข่าว ใน Line Today, สยามดารา, Kapook, Sanook ดูค่ะ เค้าเหล่านี้เป็นผู้ผลิตสื่อรายใหญ่ รวมรวมคนเก่งๆระดับประเทศไว้มากมาย
เค้ามีวิธีพาดหัวที่ชวนให้น่าเข้าไปอ่านเนื้อหาข้างในได้ดีมากทีเดียว
ซึ่งไม่แปลกใจเลยที่เนื้อหาของเค้ามีจำนวนคนกดอ่านสูงมากๆ ต่อวัน
.
2. เล่าเรื่องให้มันง่าย
ขอให้เน้นการเล่าเรื่องนะคะ ถ้าจะแชร์เทคนิค วิธีการ ก็ให้ยกตัวอย่างด้วย ยกตัวอย่างตัวเองได้ยิ่งดี เพราะจะทำให้คนเค้าจำเราได้
คนที่ถ่ายทอดเก่ง จะต้องมีความสามารถทำเรื่องยากๆ เข้าใจยากๆ ให้มันเป็นเรื่องที่ง่ายได้
แต่ละคนเค้าก็มีเรื่องเยอะแยะแล้วค่ะ ชีวิตก็เจอเรื่องยากมาเยอะละ อย่าให้เราเป็นอีกเรื่องยากในชีวิตของเค้าเลย
.
3. ให้ ให้ ให้
ตอนนี้เรากำลังทำให้ตัวเองให้เป็นที่รู้จัก ยังไม่มีใครเชื่อใจเรามากนัก เพราะฉะนั้นอย่าเน้นขาย อย่าเพิ่งขายค่ะ
เจอกันแรกๆ คนเค้าจะสงสัยเราไว้ก่อน และยังไม่เชื่อใจทันที
.
คนทุกคนชอบซื้อ แต่ไม่มีใครชอบถูกขาย ถ้าวันนึงเราจะซื้อ เราอยากซื้อกับคนที่เราชอบ คนที่เรารู้จัก คนที่เราไว้ใจ
การที่เพจเรามีของรอขาย มีการรับสมัครเรียนคอร์สสัมมนา หรือ ให้บริการอื่นๆ อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
ทุกธุรกิจต้องมีขายอยู่แล้ว
.
เวลา 1 เดือน - 3 เดือน ต่อจากนี้ ให้สิ่งดีๆ สอนสิ่งที่มีประโยชน์ แชร์ประสบการณ์ในหัวข้อที่เราได้เลือกไว้แล้ว
ให้คนคิดกับเราว่าเป็นผู้ให้ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ไม่ใช่ให้เค้าจำเราว่าเห็นเมื่อไหร่ก็มาขายของ
.
ให้สร้างแฟนคลับก่อน สร้างคนที่รักเรา สร้างคนที่ไว้เนื้อเชื่อใจเราก่อน ให้ ให้ ให้เค้าบ่อยๆ ทำให้รู้ว่า มาตามเราคนนี้ จะได้รับความรู้ดีๆ แน่นอน
จนกระทั่งมีสัญญาณขาย
มันจะมีสัญญาณขายมาแน่นอนค่ะ ถึงตอนนั้นคุณขายได้ทันที ไม่มีคำว่าแป้กค่ะ
5. พูดยังไงให้น่าฟัง
การพูดในที่นี้เอวาขอพูดถึงการใช้ Facebook Live นะคะ เพราะเป็นเครื่องมือที่ง่าย และ ฟรี ถ้าให้ไปทำคลิปวีดีโออาจต้องเรียนรู้เรื่องการตัดต่อใส่ effect ต่างๆ นานา แต่ Live นี่ไม่ต้องเลยค่ะ แค่กดปุ่มเดียว ก็ Broadcast ได้ทั่วโลกแล้ว
.
ฟังก์ชั่น Live มีให้ใช้มาหลายปีแล้ว มันง่ายจริงๆและไปถึงคนได้ดีซะด้วย
แต่เชื่อมั้ยคะ? ว่าหลายคนยังไม่กล้า Live เลยแม้แต่ครั้งเดียว !!
ทำไมถึงเป็นยังงั้น เดี๋ยวเอวาจะบอกวิธีปลดล็อกอาการกลัวและพูดยังไงให้น่าฟังนะคะ
.
ยอมรับว่าเป็นธรรมดาที่จะกลัว
การพูดในที่สาธารณะเป็นการกลัวอันดับต้นๆ ของมนุษย์เลย ข้อนี้เอวาเข้าใจดีมากกกกก เพราะสมัยก่อนเป็นคนกลัวการพูดมากกกก มากที่สุดเลยค่ะ
แล้วทำไมเราถึงไม่กล้าพูดกัน เพราะว่า...
กลัวพูดไม่ดี
กลัวหน้าแตก
กลัวคนมองเราไม่ดี
กลัวไม่เพอร์เฟกต์
อาย เขินมาก
ฯลฯ
.
ถ้ายังงั้นเอวาก็อยากให้คาถาแก้กลัวให้คุณวันนี้เลยค่ะว่า “ไม่ต้องกลัว เพราะยังไม่มีคนเข้ามาดูหรอกค่ะ”
จริงๆค่ะ แต่มันดีเพราะอะไรรู้มั้ย?
.
เพราะในระหว่างที่ยังไม่มีคนเข้ามาดูนั้น เราสามารถพัฒนาตัวเองไประหว่างที่ทำได้ ก็เหมือนกับการเขียนเลยค่ะ เขียนอะไรไปในช่วงแรกๆ ยังไม่ค่อยมีคนเข้ามาอ่านหรอก พูดก็เหมือนกัน
ในช่วงแรกๆที่กำลังฝึกฝน แค่กดปุ่มแล้ว Live เลยค่ะ
.
และอีกข้อหนึ่ง คาถาที่ทำให้หายกลัวแบบชะงัด นั่นคือ “ไม่มีใครสนใจคุณหรอกค่ะ”
มันเป็นเรื่องจริง ถึงแม้จะจริงแบบโหดร้ายก็ตาม
ทุกคนสนใจเรื่องตัวเอง แต่ถ้าสิ่งที่เราพูดมันจะทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้น ถึงตอนนั้นแหละค่ะที่เค้าจะดูและจะฟังเรา
.
ไม่มีอะไรที่เพอร์เฟกต์ตั้งแต่วันแรก คุณอาจทำมันพัง พูดผิดพูดถูก พูดไม่รู้เรื่อง ตื่นเต้น ตะกุกตะกัก
ทุกคนเจอเหตุการณ์นี้มาหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่นักพูดมืออาชีพ
ดังนั้น ไม่มีประโยชน์ที่จะกลัว ทำเรื่องดีๆ ไม่เห็นต้องอายอะไรเลย
.
ในเมื่อเรามาเป็นผู้ให้ ให้ความรู้ ส่งต่อคุณค่าดีๆ ทำให้คนสนุก ทำให้คนหายเครียด ทำให้เค้ามีความสุขขึ้น รู้ว่าทำสิ่งดีๆอยู่ ลุยเลยค่ะ
Live วันนี้เลย ทำทันที!
.
พอผ่านครั้งแรกไปแล้ว ทีนี้จะติดใจ หยุด Live ไม่ได้แล้วค่ะ รับรอง!
6. รู้วิธีขาย
ปราศจากการขายแล้ว ธุรกิจนั้นไม่สามารถอยู่ได้
การขายและการตลาด เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของกิจการต้องรู้ ต้องเชี่ยวชาญ และทำเองให้เป็น
สำหรับการขายแล้ว ขอให้คุณจำ 2 คำนี้ไว้ให้ดี นั่นคือ ชอบสินค้า + แก้ปัญหา
.
กฎข้อแรกของการขาย คือ ความรักในสินค้า
“คุณต้องอิน” ต้องเชื่อในสินค้า ใช้จริง ผ่านมันมาจริงๆ จนสามารถแนะนำลูกค้าได้จากประสบการณ์จริง
เรากำลังขายของนะคะ ไม่ได้กำลังไปหลอกใคร
ลูกค้าที่เข้ามาซื้อแล้ว มีโอกาสจะเป็นลูกค้าตลอดชีวิต ขายให้ลูกค้าปัจจุบันต้นทุนน้อยกว่า และเค้ายังเป็นกระบอกเสียงให้สินค้าเราได้อีกด้วย
เริ่มต้นด้วยความชอบก่อน มักไปได้ไกล ไปได้สวยเสมอค่ะ
.
กฎข้อสองของการขาย คือ การแก้ปัญหา
ที่ใดมีปัญหา ที่นั่นมีเงิน
สำหรับลูกค้าแล้ว สินค้า/บริการเป็นเพียงตัวกลางเท่านั้น เค้าไม่ได้ซื้อสินค้า แต่ซื้อผลลัพธ์ที่จะได้ เช่น ผู้หญิงหลายท่านไม่ได้ซื้อกระเป๋าเพราะมันเป็นหนังวัว แต่ซื้อกระเป๋าเพราะภาพลักษณ์ความสำเร็จที่จะได้ รับ
ราคาไม่ใช่เหตุผลที่นำมาตัดสินใจซื้อ หรือ ไม่ซื้อ เสมอไป ไม่อย่างนั้น กระเป๋าราคาแพงๆ คงไม่มีคนต่อคิวซื้อเป็นวันๆ หรอกค่ะ
.
เพราะฉะนั้น นักขายก็ต้องรู้อย่างลึกซึ้งว่า สินค้าของเราจะช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ลูกค้าได้บ้าง?
ลูกค้าจะมี “อนาคต” ที่ดีขึ้น ยังไง
เมื่อใช้แล้ว ลูกค้าจะได้อะไร
พูดสิ่งที่ลูกค้าจะได้ ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากขาย อย่าคิดแค่จะขาย เพื่อเพิ่มจำนวนเงินในบัญชี
แต่จงคิดจะขาย เพื่อช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกขึ้น ประหยัดเวลาขึ้น สนุกขึ้น ได้รับความรักมากขึ้น
.
การขาย คือ ทักษะที่ติดตัวมนุษย์ทุกคนมาอยู่แล้ว
ขายประโยชน์ไปให้ลูกค้า เป็นคนนำโชค นำความสะดวกไปให้ลูกค้า คิดได้แบบนี้เมื่อไหร่ ก็ไม่มีอะไรที่ขายไม่ได้ค่ะ
7. บริหารเงินยังไงให้ครอบครัวมั่งคั่ง
เงิน ช่วยให้ชีวิตสะดวกและมีทางเลือกมากขึ้น
ตัดสินใจรวยเลยค่ะ เพราะเรามีสิทธิ มันเป็นอำนาจโดยชอบธรรมของทุกคนอยู่แล้ว
.
สำหรับการบริหารเงิน เอวาขอแนะนำ 3 ตัวเลขนี้ นั่นคือ 10 20 70
เลข 10 คือ 10% ของรายได้ ต้องจ่ายให้ตัวเองก่อน
Warren Buffet บอกว่า คุณต้องเก็บออมก่อนที่จะใช้จ่าย
ไม่ใช่ใช้ก่อนแล้วออมเงินที่เหลือ เพราะส่วนมากไม่ค่อยเหลือให้ออมหรอกค่ะ
เสร็จแล้วก็เอาเงินจำนวนที่ไปลงทุน ในรูปแบบไหนก็ได้ที่คุณเข้าใจและสบายใจ อย่าเก็บไว้เฉยๆในบัญชีออมทรัพย์นะคะ เพราะดอกเบี้ยมันแทบไม่มีเลย
บัญชีนี้เข้าแล้วห้ามถอนออกเด็ดขาด
เลี้ยงดูให้ห่านทองคำโตพอที่จะออกไข่ทองคำมาให้คุณได้ทุกวันๆ นะคะ
.
เลข 20 คือ 20% เอาไปจ่ายหนี้
ใครยังมีหนี้มีสินอยู่ หนี้ใดๆก็ตาม หรือกำลังผ่อนบ้าน ผ่อนรถ อยู่
ให้กันเงินส่วนนี้ไว้จ่ายค่ะ ใครที่เป็นอิสระปลอดหนี้แล้ว ให้โปะเงินจำนวนนี้ไปอยู่ในการลงทุนให้หมดเลย ลงทุนไป 30% เลยค่ะ ห่านทองคำจะได้โตเร็วๆ
.
เลข 70 คือ 70% เอาไว้ใช้จ่าย
ก้อนนี้ก็ใช้จ่ายตามต้องการได้เลยค่ะ กิน เที่ยว สันทนาการ ค่าใช้จ่ายลูก ซื้อเสื้อผ้า ซื้อของใช้ต่างๆ และที่สำคัญจัดสรรปันส่วนไว้สำหรับการให้ด้วยนะคะ บริจาคการกุศล หยอดตู้ทำบุญ เพื่อให้เงินของเราหมุนเวียนออกไปทำประโยชน์ให้ผู้อื่นค่ะ
.
3 ตัวเลขนี้ เข้าใจได้เมื่อไหร่ชีวิตนี้จะไม่มีคำว่าจน
เอวามีชีวิตการเงินที่ดีขึ้นด้วยความรู้จากหนังสือ เศรษฐีชี้ทางรวย ที่แปลมาจากหนังสืออมตะชื่อ The Richest man in Babylon จาก George S. Clason หนังสือเล่มนี้สอนเรื่องการใช้เงินที่ทุกคนต้องอ่านค่ะ
8. ความรักของลูก = เวลา
ทุกปัญหาความสัมพันธ์แก้ไขได้ด้วย “เวลา” เท่านั้นค่ะ รักลูก ต้องให้เวลากับลูกมากๆ ให้มากเท่าที่มากได้ค่ะ
สามีก็เหมือนกัน อย่าละเลย จนทำให้ความสัมพันธ์สั่นคลอนนะคะ
.
เอวาได้คุยกับคุณแม่หลายท่าน บอกว่าเลี้ยงลูกเหนื่อยเหลือเกิน อยากให้ลองคิดแบบนี้ค่ะ เรามีเวลาแค่ 10 ปี หรือ 3,000 กว่าวันเท่านั้นที่จะได้อยู่ดูแลลูก บ่มเพาะเค้า เลี้ยงดูลูกให้ดีทั้งกายและใจ
.
แล้วตอนนี้เวลาของคุณเหลืออีกกี่วันคะ?
จงใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่าที่สุด สร้างความทรงจำที่ดี สร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้ลูกของเรา
.
เพราะครอบครัว คือ ของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิต
ครอบครัว คือ การเรียนรู้คำว่ารักได้อย่างลึกซึ้งที่สุดแล้วค่ะ
จงรักและดูแลของล้ำค่านี้ไว้ให้มากๆ อย่าปล่อยปละ ละเลย เพราะเมื่อความสัมพันธ์เสียหายไป อาจแก้ไขไม่ทันการแล้วค่ะ
ให้เวลา ให้ความรัก ให้ครอบครัวของเราให้มากที่สุด
แบ่งปันความสุขและความสำเร็จกับพวกเค้าเป็นคนแรกเสมอ
.
เพราะในเวลาที่เราต้องเผชิญกับความทุกข์ หรือ ความยากลำบากต่างๆ
ที่สุดแล้ว ไม่มีใครจะมาร่วมฝ่าฟันอุปสรรคกับคุณได้หรอกค่ะ ยกเว้น ครอบครัวของเราเองเท่านั้น
9. พัฒนาตัวเองเสมอ
ในยุคข้อมูลข่าวสารแบบนี้ ความรู้ดีๆ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาหาเรามากมาย ธุรกิจใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทุกวัน ในขณะที่ธุรกิจที่เคยมีอยู่ ก็ล้มหายตายจากไปมาก
.
คุณแม่อย่างเรา ถ้าต้องการเพิ่มความสามารถในการหาเงินให้ได้เพิ่มขึ้น ก็ต้องเรียนรู้เทคนิควิธีใหม่ๆ ให้มากขึ้นด้วยนะคะ เพราะไม่มีใครสามารถสร้างผลลัพธ์ใหม่ โดยใช้วิธีการเดิม คนที่รักการเรียนรู้ จึงมีโอกาสมากกว่า
.
ไม่ต้องพยายามเก่งทุกเรื่อง แค่เก่งในเรื่องที่ถนัดซักเรื่องก็พอแล้ว การเรียนรู้พัฒนาตัวเอง ต้องทำกันทั้งชีวิต และสามารถทำได้ 3 วิธีดังนี้คือ
1. เรียนรู้จากการอ่าน
2. เรียนรู้จากการฟัง
3. เรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น
.
อย่าเสียเวลาเอาขวานทื่อๆ ไปตัดต้นไม้ ในเมื่อมีคนสอนเราลับขวานให้คมขึ้นได้ การเรียนรู้ด้วยวิธีต่างๆ จะช่วยประหยัดเวลาให้เราได้มหาศาล ชีวิตเรามีไม่มากพอจะไปลองผิดลองถูกทุกอย่างด้วยตัวเองนะคะ
.
ถ้าเอวาไม่ลงทุนกับการพัฒนาตัวเองอย่างหนักในช่วงแรกที่เริ่มต้น คงใช้เวลานาน อาจท้อแท้เลิกล้มความตั้งใจไปแล้วก็ได้ คงไม่สามารถใช้เวลาแค่ 3 เดือนเพื่อขายดีมีเงินล้านอย่างตอนนั้นแน่ๆ ดังนั้น แค่เราตั้งใจพัฒนาตัวเองวันละ 1% ตลอดทั้งปี เราจะเก่งขึ้นได้อย่างน้อย 300% แล้วนะคะ ลงทุนอะไรก็ไม่ได้ผลตอบแทนเท่าลงทุนกับตัวเองค่ะ
10. สำหรับท่านที่อยากไปต่อ
ใกล้คลอดแล้ว กับคอร์สออนไลน์เรื่องเฟสบุคที่เอวาเตรียมมามากกว่า 9 เดือน
กับแค่คอร์สสอนสร้างแฟนเพจ คอร์สหนึ่ง ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเลยหรอ?
ที่ต้องเตรียมการนานขนาดนั้น? เพราะว่า เอวาต้องเอาตัวเองมาพิสูจน์สิ่งที่สอนก่อนว่าใช้ได้ผลจริงหรือเปล่า
.
สำหรับท่านที่ติดตามเอวามานาน การที่เราต่างหากันเจอนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยค่ะ
ไม่ง่ายเลยที่คุณหยุดเพื่ออ่าน หยุดฟัง บทความพูดได้แต่ละบท
แต่นั่นแสดงว่า คุณกำลังหาคำตอบและการเปลี่ยนแปลงบางอย่างให้กับชีวิตครอบครัว
โชคชะตาจึงนำพาให้เรามาพบกันอย่างถูกที่ ถูกเวลา
.
ตอนนี้คุณกำลังเดินมาอยู่ที่จุดเริ่มต้นแล้ว
เอวาเชื่อมั่นสิ่งที่รู้จะเป็นประโยชน์ต่อก้าวต่อๆ ไปของคุณ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ที่นำไปสู่การเป็น Mompreneur ผู้มีความสุขกับครอบครัว และมั่งคั่งจากงานที่รัก
.
เอวาอ่านหนังสือ ฟัง Audiobook และเรียนสัมมนามากมายในแต่ละปี จากครูระดับโลกและในประเทศ
ได้ทดลองทำหลายๆ โมเดล มีทั้งเวิร์ค และ ไม่เวิร์คในตลาดเมืองไทย
.
เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนมีประสบการณ์เท่านั้น เอวาก็สอนเรื่องเฟสบุคได้ดีระดับหนึ่ง
เปรียบเทียบกับตอนนี้ หลังจากมีประสบการณ์มากขึ้น…
หมายความว่า เอวาก็จะสอนเรื่องเฟสบุคต่างไปจากเดิม เพราะมีหลายจุดที่เข้าใจมากขึ้น เข้าถึงมากขึ้น
อะไรที่ทำแล้วได้ผล
อะไรที่ไม่ต้องไปสนใจเลย
อะไรที่ทำแล้วได้กำไรสูง คุ้มค่ากับเวลาที่คุณกำลังจะทุ่มเท
แน่นอนว่า คุณสามารถประหยัดเวลาตัวเองไปได้เกือบ 3 ปีเลยทีเดียว
.
ถ้าเป้าหมายสำคัญข้อหนึ่งของคุณ คือ การมีเวลาให้ครอบครัวอย่างเต็มที่ และสามารถสร้างรายได้จากที่บ้านไปด้วยได้
ขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้ง คุณยืนอยู่ในจุดเริ่มต้นที่ถูกต้องแล้วค่ะ
ป.ล. ลูกโตเร็วมากจริงๆ ค่ะ เมื่อเดือนก่อนเอวาเพิ่งจัดงานวันเกิดเล็กๆ ในครอบครัวให้กับลูกสาวคนโตที่มีอายุ 7 ขวบแล้ว
เวลาไม่เคยคอยใครเลย
มีแต่ลูกเท่านั้นแหละ ที่รอคอยเวลาจากคุณแม่อย่างเรา
.
ตอนนี้การตัดสินใจก็อยู่ที่คุณ
ถ้าคุณสนใจที่จะศึกษาความรู้เฉพาะที่จำเป็นจริงๆ ในอาชีพ Mompreneur จาก Mompreneur ตัวจริง ที่มีผลลัพธ์จริง
เอวามีเนื้อหาสำคัญที่จะสอนในคอร์ส “ร้านนี้ดีขายแล้วรวยด้วย Facebook” คัดเฉพาะของที่ใช้ได้จริง เหมาะกับยุคนี้ ให้คุณนำไปลงมือสร้างธุรกิจเล็กๆ จากที่บ้านได้ทันที
ขอให้ทุกวันของคุณ คือ วันแห่งความก้าวหน้าค่ะ
รัก
เอวา จิตสุทธิภากร
Mompreneur