#28 : เคล็ดลับการใช้คำพูดเพื่อสร้างลูกให้เป็นเลิศ

0
13030
views
#28 : เคล็ดลับการใช้คำพูดเพื่อสร้างลูกให้เป็นเลิศ

แชร์สิ่งดีๆ ไว้เรียนรู้ต่อ


ฟังบทความพูดได้ ที่นี่ค่ะ 


อ่านบทความ #28 : เคล็ดลับการใช้ 'คำพูด' เพื่อสร้างลูกให้เป็นเลิศ

“คำพูดของพ่อแม่” เปรียบเสมือน “ประกาศิต” ที่กำหนดชีวิตของลูก

เพราะในช่วงแรกของชีวิต เค้ายังไม่มีโลกทัศน์ที่กว้างไกลนัก

ยังไม่ได้ไปรับข้อมูลเพิ่มจากคนอื่น

ความคิดเห็นของพ่อแม่ จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและสำคัญที่สุดในชีวิต

พ่อแม่คือโลกทั้งใบของเค้า

ดังนั้น ไม่ว่าพ่อแม่พูดอะไร ลูกก็เชื่อและทำตามทั้งนั้น


“คำพูด” ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในกระบวนการสร้างคน

และนี่คือ  3 เคล็ดลับสำคัญของการใช้คำพูดเพื่อสร้างลูกให้เป็นเลิศค่ะ 


1. "เทรนตาตัวเองให้มองเห็นในสิ่งดีๆ เพื่อช่วยให้สิ่งดีนั้นเด่นชัดขึ้นอีก"

นี่คือเคล็ดลับการชมลูกให้มีพลัง

เพื่อให้เค้ามีกำลังใจทำสิ่งดีๆ ต่อไป (วิธีนี้จะไม่ทำให้เค้าเหลิง และหยุดพัฒนา)


เราอยากให้เค้าเก่งในเรื่องอะไร

ให้สังเกต และชมในสิ่งที่เค้าทำได้ดี

ดึงจุดแข็งขึ้นมาแล้วชื่นชมสิ่งนั้น

พูดเพื่อให้เค้าภูมิใจและอยากทำมากขึ้น


พ่อแม่อย่าไปคิดว่า...

“โอ๊ยยยย ลูกน่ะไปชมมันมากไม่ได้หร้อกกกก เดี๋ยวเหลิง เดี๋ยวหัวโต แล้วต้องให้คนอื่นชม เราไปชมไม่ด้ายยยย”


เอวาเคยได้ยินแล้วถึงกับสตั๊นท์ไปหลายนาที

เพราะความเชื่อแบบนี้ ไม่ถูกต้องเลยค่ะ


คำพูดและความคิดเห็นของใคร สำคัญที่สุดสำหรับลูกล่ะคะ?

คำตอบ…

คำพูดของพ่อแม่ค่ะ


ในช่วงแรกของชีวิตเด็ก คนที่มีอิทธิพลสูงมาก คือ พ่อแม่

ผู้ใหญ่บางคนยังคงโหยหาคำชื่นชมจากพ่อแม่อยู่เลย

นับประสาอะไรกับเด็กเล็กๆ ล่ะ


แล้วการที่พ่อแม่จี้แต่จุดอ่อน

โฟกัสที่เรื่องที่ไม่เก่ง

หาจุดเล็กๆ ที่เค้าผิดพลาด หยิบยกขึ้นมาเป็นเข็มแทงเค้าตลอด

มันไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้เค้าอยากทำมากขึ้นนะคะ


ตรงกันข้าม

จะทำให้เค้ามองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง

เค้าจะเก็บคำพูดของพ่อแม่ไปคิด แล้วก็กลายเป็นปมด้อยในตัว (โดยไม่จำเป็น)


ซึ่งการมองเห็นคุณค่าในตัวเองนี้

เป็นดัชนี้สำคัญเลย ที่จะส่งให้เด็กคนนั้นเติบโตเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้


มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลูกของเอวาเค้าบอกตัวเองว่า เค้าไม่เก่งเลข 

เค้าคำนวนไม่ได้ ทำผิดตลอด


เอวาก็ถามว่า หนูไม่เก่งเลขตรงไหน?

มาดูสิ แบบฝึกหัดท้ายบท หนูได้คะแนนตั้งเท่านี้

สมมติว่า ได้ 17 เต็ม 30 (คุณอาจจะมองว่าก็คืออ่อนนั่นแหละ เพราะแค่มากกว่าผ่านมานิดเดียว ใช่มั้ยคะ)


แต่ในความคิดของเอวา

มันหมายความว่า ทำได้ตั้ง 17 ข้อ แหนะ

เราก็ชื่นชมเค้าที่ 17 ข้อนั้นที่ทำถูก


ส่วนข้อที่ผิด

เอวาก็ชวนลูกมาดูกันว่าจะทำยังไงให้ถูก


ระหว่างที่สอนก็ชมเค้าไปเรื่อยๆ

บอกให้เชื่อว่าหนูทำได้ตั้งเท่านั้นแล้ว จะทำให้ถูกอีก 13 ข้อเป็นเรื่องง่ายๆ


ปรากฏว่า คะแนนของลูกดีขึ้นตามลำดับจนถึงดีมากเลยค่ะ


ไม่มีใครอยากจะมานั่งซ่อมจุดอ่อนของตัวเองทั้งชีวิตหรอกนะคะ

ทุกคนอยากโฟกัสที่จุดแข็งและเก่งในเรื่องที่ตัวเองชอบกันทั้งนั้น


ลูกทำเรื่องไหนได้ดี

ให้พ่อแม่สังเกต ชื่นชม >> เค้าจะอยากทำเพิ่มแบบอัตโนมัติ


สิ่งไหนที่เราให้พลังและใส่ใจ

เป็นธรรมดาที่เราจะเห็นสิ่งนั้นมากขึ้นและมากขึ้น

เพราะฉะนั้นมาช่วยกันส่งเสริมคนที่เรารักที่สุดด้วยการชื่นชมและโฟกัสที่จุดแข็งกันดีกว่านะคะ


** เด็กอยากได้ที่สุด คือ การยอมรับจากพ่อแม่

แต่ถ้าพ่อแม่ไม่ยอมรับ

ก็เป็นธรรมดา ที่เค้าจะต้องไปหาการยอมรับจากที่อื่น ซึ่งเราคงไม่ชอบแน่ๆ เลยค่ะ

#28 : เคล็ดลับการใช้คำพูดเพื่อสร้างลูกให้เป็นเลิศ.02

2. ประโยคต้องห้ามในการสร้างลูกให้เป็นอัจฉริยะ

มนุษย์ทุกคนจะพัฒนาตัวเองไปตามแต่ความเชื่อกันทั้งนั้น

ความเชื่อกำหนดการกระทำ 

ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ต่างกัน


เมื่อเค้าเชื่อว่าเค้าเก่ง เค้าจะแสดงออกแบบคนเก่ง

เมื่อเค้าเชื่อว่าเค้าแวดล้อมเต็มไปด้วยความรัก เค้าจะแสดงออกแบบมั่นใจ

เมื่อเค้าเชื่อว่าตัวเองสุขภาพดี เค้าก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง ถ้าเจ็บป่วยก็ใช้เวลาแป๊บเดียวหาย


และคำพูดต้องห้าม ที่ทำร้ายจิตใจเด็กมากๆ

คือคำพูดที่ว่า “หนูเป็นเด็กไม่ดี”

เป็นเด็กไม่เก่ง 

เรียนอ่อน

กินยาก เลี้ยงยาก

สู้คนนั้นคนนี้ไม่ได้


ฟังทีแรกยังไม่เท่าไหร่

แต่เมื่อพ่อแม่พูดบ่อยๆ ย้ำบ่อยๆ

คำพูดนี้ มันจะตีตราไปเรียบร้อย จิตยอมรับและปลูกฝังเข้าไปในใจ

 

และเมื่อเค้าฟังจนเชื่อเมื่อไหร่

เค้าก็จะปฏิบัติตัวแบบนั้นไปโดยปริยาย


เพราะเด็กยังไม่มีความเข้าใจมากพอที่จะแยกแยะได้ว่า

เอ๊ะ! พ่อแม่ว่าฉัน เพราะว่าฉันทำไม่ดี 

พ่อแม่ว่าที่พฤติกรรมของฉัน

ไม่ได้หมายความว่าฉันเป็นคนที่ไม่ดี

เค้ายังแยกไม่ได้หรอกค่ะ


แล้วผู้ใหญ่ก็ชอบพูดแบบนี้โดยไม่รู้ตัว

ไม่รู้เลยว่ากำลังทำให้คนที่รักมากที่สุดสลดหดหู่แค่ไหน


ลูกสามารถทำผิดได้ อันนี้เป็นเรื่องปกติ

เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องสอนเค้า

ด้วยการบอกว่า =การกระทำนี้ไม่ถูกต้อง=

ทำแบบนี้ไม่ดี


แล้วสิ่งที่ถูกต้อง คือแบบไหน คือ ทำยังไง

บอกให้เค้าเข้าใจ

เพื่อในอนาคตเค้าจะได้ทำให้ถูกต้อง และทำได้ดีกว่านี้ค่ะ


** เด็กทุกคนเกิดมามีความเป็นอัจฉริยะอยู่ในตัว

แต่ยิ่งโตขึ้น ความอัจฉริยะก็ค่อยๆ ลดน้อยลงจนถึงไม่มีเลย

เกิดจากอะไร ก็เพราะพ่อแม่นี่แหละค่ะ

#28 : เคล็ดลับการใช้คำพูดเพื่อสร้างลูกให้เป็นเลิศ.03

​3. ใช้ 2 คำที่ทรงพลังที่สุดในชีวิตให้เป็น

คำที่ 1 คือ ฉัน (I)

คำที่ 2 คือ เป็น/อยู่/คือ (AM)


I AM

2 คำนี้บันดาลให้เกิดสิ่งต่างๆ 

2 คำนี้เปรียบเสมือนการตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง


สอนลูกว่า คำพูดต่างๆ ที่เราพูดกับคนอื่น ก่อให้เกิดผลลัพธ์แค่ประมาณ 7% เท่านั้น

แต่คำพูดที่สื่อสารกับตัวเอง จะได้ผลลัพธ์ถึง 100%

พูดง่ายๆ คือ ทุกคำที่เราพูดซ้ำๆ พูดย้ำๆ กับตัวเอง จะเกิดขึ้นจริง 100%


เพราะสมองของคนเราทำงานตอบสนองเป้าหมาย (Goal-seeking machanism) 

ไม่ว่าเป้าหมายนั้นคืออะไร 

จิตใต้สำนึกที่ไม่มีวันหลับใหลจะทำงานทั้งวันทั้งคืนที่จะพิชิตเอามาให้ได้

และคำพูดที่อยู่หลัง I AM  ก็คือ ความคิดที่ป้อนเข้าสู่สมองที่มีพลังอันยิ่งใหญ่นั่นเอง


เช่น

พูดบ่อยๆ ว่า -ฉันมันโง่-

จิตใต้สำนึกก็จะรับคำสั่งทันทีว่า “ได้ค่ะ เจ้านาย และทำให้เกิดเรื่องที่คุณจะได้แสดงความโง่ออกมา”


ยกตัวอย่างเช่น ลูกคนโตของเอวาชอบว่ายน้ำ

เค้าก็ค่อยๆ ฝึกว่ายน้ำทีละท่าไปเรื่อยๆ 

มาถึงท่าผีเสื้อ เค้าพูดตลอดว่า หนูไม่อยากว่ายผีเสื้อเลย มันยากมาก หนูว่ายไม่เก่ง


ตอนแรกเอวาได้ยินก็ปล่อยผ่าน ไม่ได้ช่วยแก้ไข

ไปๆ มาๆ ท่านี้ถือเป็นยาขมของเค้า ว่ายยังไงก็ว่ายได้ไม่ดีเลย 

คำนี้ที่เค้าพูดกับตัวเองเกิดขึ้นจริงไปเรียบร้อยแล้ว


จนวันหนึ่งเค้าพูดประโยคนี้อีก

เอวาก็ช่วยเค้า โดยการพูดให้คำนิยามใหม่ กับตัวเอง 

พาเค้าพูดเสมอๆ ก่อนนอน

“ฉันว่ายน้ำได้อย่างยอดเยี่ยม”

“ฉันว่ายท่าฟรีสไตล์ได้อย่างยอดเยี่ยม”

“ฉันว่ายท่ากบได้อย่างยอดเยี่ยม”

“ฉันว่ายท่ากรรเชียงได้อย่างยอดเยี่ยม”

“ฉันว่ายท่าผีเสื้อได้อย่างยอดเยี่ยม”

“ท่าผีเสื้อเป็นเรื่องง่ายๆ ของฉัน”


พูดไปก่อน ตัดสินใจไปก่อน เดี๋ยวอารมณ์ร่วมมันจะค่อยๆ มาเองค่ะ 

จากไม่ค่อยเชื่อ จากที่สงสัยหน่อยๆ ลูกก็จะเริ่มเชื่อ เริ่มมองเห็นทาง เริ่มหาหลักฐานว่าฉันก็ว่ายได้นี่หว่า


พอมีเหตุการณ์ หรือ ความล้มเหลว เกิดขึ้นบ้าง 

(มันจะต้องมีอยู่แล้ว เพราะความล้มเหลวคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ)

แต่คำประกาศิตนั้นที่พูดกับตัวเองเรื่อยๆ มันดังกว่าไงคะ


จากนี้ ความเชื่ออะไรที่มันขัดแย้งกับสิ่งนั้นเนี่ย 

ก็จะถูกโยนทิ้งลงมหาสมุทรไปเรียบร้อยทันที


เพราะเมื่อเราปฏิเสธที่จะเชื่อ

สิ่งเหล่านั้นมันก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง


** คำทรงพลังพวกนี้ คำเหล่านี้จะรอใครมาบอก มาพูดกับลูก จะรอไปทำไม?

ในเมื่อพ่อแม่สามารถช่วยให้ลูกเป็นเลิศได้ เพียงใช้เวลาแค่วันละไม่กี่นาที เท่านั้นเอง

#28 : เคล็ดลับการใช้คำพูดเพื่อสร้างลูกให้เป็นเลิศ.04

สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกมีหัวใจแห่งความสำเร็จ

รัก

เอวา จิตสุทธิภากร

Mompreneur