แชร์สิ่งดีๆ ไว้เรียนรู้ต่อ
ฟังบทความพูดได้ คลิกฟังที่นี่ค่ะ
ทุกวันที่ผ่านไป ชีวิตของเราควรจะดีกว่าเดิม และดียิ่งขึ้นทุกๆ ปี ตราบใดที่คุณยังคงตื่นขึ้นมาพบกับวันใหม่ หน้าที่ของคุณมีเพียงสิ่งเดียว คือ ทำให้วันนี้เป็นวันดี และทำให้พรุ่งนี้ของคุณและครอบครัวเป็นอนาคตที่ดี
สำหรับคุณแม่ที่ทำงานไปด้วย คุณก็เหมือนเอวาเลยค่ะ ที่ต้องการให้เช้าวันใหม่ของครอบครัวเป็นช่วงเวลาที่วิเศษ ต่างคนต่างส่งกำลังใจกันและกัน เพื่อออกไปสร้างความยิ่งใหญ่ในสไตล์ของตัวเอง
แล้วถ้าเอวาบอกว่า คุณสามารถสร้างวันใหม่ให้ดีขึ้นได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนนิสัยเล็กๆ บางอย่างได้ล่ะ มันจะดีมั้ยคะ? วันนี้เอวาจึงอยากแบ่งปัน 10 นิสัยที่อยากให้คุณนำไปลองทำดูค่ะ...
1. วางแผนเช้าวันใหม่ไว้ล่วงหน้า
Jim Rohn อาจารย์สอนการใช้ชีวิตที่มีชื่อเสียงระดับโลกท่านหนึ่ง มักจะกล่าวเสมอว่า “If you fail to plan, you plan to fail” ถ้าคุณไม่วางแผน นั่นคือ คุณกำลังวางแผนที่จะล้มเหลวแล้ว
.
เช้าวันใหม่ ไม่ได้เริ่มต้นที่เวลาตีห้า หรือ 6 โมง อย่างที่เคยเข้าใจกัน แต่เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนเข้านอนแล้วค่ะ
.
ไม่ว่าคุณทำงานอยู่ที่บริษัทไหน ที่นั่นก็จะต้องมีการประชุมวางแผนเพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่จะใช้ในปีนั้นๆ หรือ ไตรมาสนั้นๆ แล้วก็ให้แต่ละฝ่ายนำไปขับเคลื่อนสร้างออกมาเป็นผลการดำเนินงาน
การวางแผน จึงเปรียบเสมือน การเขียนอนาคต
.
กับชีวิตของเราเอง การวางแผนไม่ใช่แค่สิ่งที่ควรทำ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ
เริ่มต้นวางแผนกันได้ง่ายๆ วันนี้ขอให้คุณหาสมุดมาเล่มหนึ่งเอาไว้ใช้จด เขียนลงสมุดตั้งแต่คืนนี้ ว่าพรุ่งนี้มีงานอะไรบ้าง แล้วเตรียมข้าวของทุกอย่างให้พร้อมตั้งแต่วันนี้เลย
อย่าปล่อยให้ช่วงเช้าเป็นเวลาแห่งความรีบร้อนวุ่นวายใจ เมื่อคุณสามารถวางแผนวันดีวันใหม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเข้านอน
CHECKLIST : Mompreneur Morning Routine
เช็คลิสต์ที่จะช่วยให้คุณสร้างวันใหม่ให้ดีได้ ด้วยการเปลี่ยนนิสัยแค่ไม่กี่อย่าง
กดรับของขวัญนี้ได้ทันที คลิกที่ Free Download
2. ชั่วโมงที่ 25 งอกออกมาตอนตื่นเช้า
มีใครบ้าง? ที่อยากมีเวลามากขึ้น อยากให้วันหนึ่งมีมากกว่า 24 ชั่วโมง
คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้…
เพียงแค่ ตื่นให้เช้าขึ้นอีก 1 ชั่วโมง
.
การตื่นเช้าเป็นนิสัยที่คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนทำค่ะ ตอนที่หาข้อมูลเพื่อเขียนบทความนี้ ก็อ่านเจอว่า เหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกนี่เค้าตื่นเช้ากันมากค่ะ หลายๆท่านตื่น 06.00 หรือ 07.00 น. และอีกหลายท่านตื่นตี 5 ค่ะ
ทั้งๆที่พวกเค้ามีธุระยุ่งมาก ต้องติดต่อกับคนมากมาย ในแต่ละวัน แต่เค้าก็ยังตื่นเช้าได้ แบบนี้ เราก็ทำได้แน่นอนค่ะ
.
เวลา คือ สิ่งเดียวที่ทุกคนมีเท่ากันหมด
เมื่อตื่นเช้าขึ้น แปลว่าคุณมีแต้มต่อมากขึ้นทันที คุณมีเวลาสร้างความก้าวหน้าให้กับชีวิตตัวเองนานมากขึ้นทันที
.
ตรงนี้คุณอาจบอกว่า ถ้างั้นนอนดึกขึ้นแล้วกันจะได้มีชั่วโมงที่ 25 และชั่วโมงที่ 26 เพิ่มขึ้นมาได้
ได้ค่ะ แต่มันไม่เหมือนกัน เอวาลองมาทั้ง 2 วิธีแล้ว
.
ตื่นแต่เช้ามาทำงานเพิ่มดีกว่า เพราะตอนดึกสมองมันเหนื่อยล้ามาทั้งวันแล้ว มันไม่อยากคิดอะไรแล้ว สมองส่วนสร้างสรรค์มันทำงานไม่ไหวแล้วค่ะ
อีกอย่าง ร่างกายของเรามีสิ่งที่เรียกว่า นาฬิกาของชีวิต อยู่ ยิ่งใช้เวลาให้สอดคล้องกับนาฬิกาชีวิต ตัวคุณก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
เอวาเคยนั่งทำงานดึกๆ ติดต่อกันเป็นเดือน ผลก็คือ ตอนเช้าตื่นแทบไม่ไหว ระหว่างวันหมดแรงไม่อยากคิดอะไร อยากจะนอนอย่างเดียว ที่สำคัญมากคือ ผิวแห้งสาก หน้าเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ฝ้ากระสีชัดขึ้น (ไม่คุ้มเลยค่ะ^^)
.
ถ้าคุณอยากหาเวลาเพื่อทำงานเสริมสร้างรายได้เพิ่ม ลองตื่นเช้าขึ้นอีก 1 ชั่วโมงสิคะ เรียนความรู้ใหม่ๆ ลงมือทำตามที่เรียน เริ่มต้นแค่วันละ 1 ชั่วโมงก็พอค่ะ
3. เก็บที่นอน
นี่คือเรื่องง่ายๆ แต่มันทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
การเก็บที่นอนให้เรียบร้อยคือความสำเร็จชิ้นแรกในยามเช้าทีเดียวค่ะ
แค่กัดฟันลุกขึ้นมาแล้วเริ่มเก็บเตียง พับผ้าห่ม ดึงผ้าปูเตียงให้ตึง จัดหมอนให้เข้าที่ แค่นี้ร่างกายคุณก็ตื่นแล้ว เตียงเรียบร้อยแล้ว ใจก็ไม่อยากกลับไปนอนต่อแล้วค่ะ
แถมยังสามารถชวนลูกๆ มาช่วยกันพับผ้าห่ม ช่วยฝึกเด็กๆ ให้รู้จักรับผิดชอบงานเล็กๆ ได้ด้วย
เมื่อกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง ก็ไม่มีอะไรที่ดียิ่งกว่า ความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจเมื่อได้ล้มตัวลงนอนในเตียงที่สะอาดสะอ้าน หลังจากออกไปทำงานสร้างความยิ่งใหญ่มาแล้วทั้งวัน
4. จำกัดการใช้โทรศัพท์
การตื่นเช้าแล้วจับมือถือเลื่อนดู social ดูเฟสบุค ดูวีดีโอ เป็นการพรากเวลาเช้าของคุณไปอย่างน่าเสียดาย เพราะคุณกำลังเอาเวลาช่วงเช้าที่สำคัญไปตกอยู่ใต้ความคิดเห็นและอารมณ์ของคนอื่น ซึ่งคุณควบคุมสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เลย
เอวาขอยกเว้น การเปิดมือถือแล้วโทรไปหาคนที่รัก หรือ ฟังความรู้ดีๆ หรือ ฟังเพลงคลาสสิค นะคะ 3 อย่างนี้จะช่วยสร้างวันดีๆ ให้ดียิ่งขึ้นได้อีกค่ะ
ปกติตอนเช้า ตื่นมาแล้ว เอวามักจะเปิดไลน์เพื่อดูว่ามีธุระด่วนอะไรมั้ย เพราะยุคนี้เราทำธุรกิจออนไลน์ โดยมีมือถือเป็นเครื่องมือสำคัญ ถ้าจะไม่จับไม่ดูเลยก็คงไม่ได้
ขอเป็นว่า รีบเช็คข้อความทางไลน์ หรือ อินบ็อก อย่างรวดเร็วเพื่อดูข้อความสำคัญ ตอบรับออเดอร์ คอนเฟิร์มเงินโอนที่ลูกค้าโอนมาในช่วงกลางคืน ใช้เวลาแค่แป๊บเดียว แล้วก็วางเลยค่ะ เอวาจะยังไม่อ่านข้อความจากกลุ่มต่างๆ ยังไม่เช็คอีเมล์ ยังไม่เปิดเฟสบุค
ตลอดทั้งวันยังมีเวลาอีกหลายช่วงที่สามารถเช็ค social ได้ เก็บช่วงเช้าที่แสนสดใสให้กับหัวสมองโล่งๆดีกว่าค่ะ
5. อาบน้ำเย็น
บรื๋ยยยยส์สสสส
ตอนที่เอวารู้เทคนิคนี้นี่แบบรู้สึกหนาวถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว อาบน้ำเย็นเนี่ยนะ!! โอย ฉันคงไม่ไหวง่ะ แต่พอได้ลองทำจริงๆแล้ว มันไม่ยากอย่างที่คิดเลยแฮะ
.
การอาบน้ำเย็นไม่ใช่แค่ทำให้ร่างกายตื่น เท่านั้น
เพราะการอาบน้ำเย็นมีข้อดีมากมาย มีการศึกษารับรองตามหลักวิทยาศาสตร์ อาทิเช่น (ที่มา https://www.positivehealthwellness.com/beauty-aging/9-scientifically-proven-benefits-cold-shower)
1. ช่วยควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น (ใครโมโหง่าย หงุดหงิดเก่ง ลองอาบน้ำเย็นทุกวันดูนะคะ)
2. เพิ่มความมุ่งมั่น ยืนหยัดทำในสิ่งที่ควรทำได้นานขึ้น (มันยากตอนเริ่ม แต่พอเริ่มแล้วมันจะง่าย เหมือนการอาบน้ำเย็นนี่แหละ)
3. เพิ่มระบบเมตาบอลิซึ่ม ช่วยย่อยอาหารได้ดีขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
4. ผิวสวยกว่าเดิม ผิวกระชับขึ้น รูขุมขนเล็กลง ผมสวยขึ้น ผมร่วงน้อยลง ผมดกดำเงางามมากขึ้น
5. ช่วยลดความเครียด (ฮอร์โมนแย่ๆ หลายตัวลดลง ฮอร์โมนดีๆ หลายตัวเพิ่มขึ้น สรุปอาบเลยค่ะ อย่าคิดนาน)
ยังมีข้อดีอีกมากมายเลยนะคะ แค่นี้เอวาเชื่อว่าคุณตัดสินใจเปิดน้ำเย็นอาบได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าค่ะ
6. ทานอาหารเช้า
อาหารเช้า คือ มื้อที่สำคัญที่สุด แต่หลายคนข้ามไปเพราะอ้างว่า ไม่มีเวลา
กระเพาะของเราขาดอาหารมาเป็นเวลานาน อย่างน้อย 12 ชั่วโมง ตั้งแต่หลังมื้ออาหารเย็น เพราะฉะนั้นตื่นมาตอนเช้า ร่างกายจะหิวมาก ต้องการพลังงานที่ดีเพื่อขับเคลื่อนให้ทำงานอย่างมีคุณภาพได้
การเลือกอาหารเช้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน คุณควรทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ เช่น ปลา ผัก ข้าวกล้อง หรือ พวก กราโนล่า ธัญพืช และน้ำเต้าหู้แบบไม่หวาน พยายามหลีกเลี่ยงของทอด ของมัน หรือ อาหารที่มีไขมันและแป้งสูง
นอกจากนี้ น้ำ ถือเป็นเครื่องดื่มที่สำคัญที่สุดหลังจากตื่นนอน เพราะน้ำจะไป Reset ร่างกายเพื่อบอกว่า เช้าแล้วนะ อวัยวะต่างๆ ทำงานตามปกติได้แล้วนะ ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น อาการท้องผูกก็หายไป
อย่าแทนมื้ออาหารเช้าด้วยกาแฟ แต่ให้ทานอาหารเช้าก่อน แล้วตามด้วยกาแฟที่ชงเอง หลีกเลี่ยงกาแฟสดตามร้านที่อุดมไปด้วยนมข้นหวานและครีมเทียม คุณทราบมั้ยว่า กาแฟสดแก้วเดียวให้พลังงานสูงถึง 300 แคลอรี่ มากกว่าการวิ่ง 3 กิโลเมตรซะอีก
ถามตัวเองให้แน่ใจว่า “นี่ฉันติดกาแฟหรือติดน้ำตาลกันแน่?”
ถ้าคุณติดใจในรสชาติกาแฟสด ลงทุนซื้อแก้วกดกาแฟ (Coffee Press) มาเลยค่ะ อันละประมาณพันกว่าบาท แล้วซื้อเม็ดกาแฟคุณภาพดี บอกให้ทางร้านเค้าช่วยบดสำหรับชงด้วยแก้วกดกาแฟ เวลาชงเองก็ใส่น้ำตาลน้อยๆ
ชงกาแฟเองจากที่บ้าน ประหยัด สะอาด และดีต่อสุขภาพร่างกาย มากๆเลยค่ะ
7. วางของที่ต้องใช้ทุกวันไว้ข้างประตู
มีไม่กี่อย่างหรอกค่ะที่คุณจะต้องถือไปด้วยทุกวัน ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
กุญแจรถ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ บัตรสำคัญต่างๆ - บัตรประชาชน ใบขับขี่ แว่นกันแดด ถุงเท้า
เมื่อคุณต้องใช้ของพวกนี้อยู่แล้ว ก็วางมันไว้ในที่เห็นง่าย ต้องผ่านทุกวัน คือ ประตูบ้าน ซะเลย
หาตู้รองเท้าซักใบมาไว้ข้างประตู แล้ว จัดพื้นที่หลังตู้สำหรับวางของสำคัญเหล่านี้
และขอให้คุณสร้างนิสัย เติมน้ำมันรถยนต์ให้เต็ม เสมอค่ะ อย่าปล่อยให้เกจ์น้ำมันตกลงถึงตัวแดงแล้วร้อนรนหาปั๊มน้ำมันไม่ได้
หลีกเลี่ยงเช้าที่แสนวุ่นวาย ตัดความกังวลใจทิ้งไปด้วยได้ด้วยการเตรียมพร้อมนะคะ
8. ไปส่งลูกที่โรงเรียน
เวลาไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียน คือ เวลาทอง เป็นเวลาดีที่ครอบครัวได้คุยกัน
ได้ไปรับส่งลูก คือ อีกกิจกรรมที่สำคัญมากค่ะ
.
เพราะก่อนที่เค้าจะเดินเข้าโรงเรียนในเช้าวันนี้ เค้าได้รับคำอวยพร ได้สวัสดีคนที่เค้ารักและรักเค้าที่สุด สามารถเดินเข้าโรงเรียนได้อย่างมั่นใจ
เมื่อเดินออกจากโรงเรียนในตอนเย็น เค้าก็ได้เจอคนที่ไว้ใจที่สุด ได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่าง 8 ชั่วโมงที่ไม่ได้เจอกัน ว่ามีอะไรสนุกๆ บ้าง ได้เรียนรู้อะไรบ้าง
.
เอวากับสามีไปรับไปส่งลูกทุกวันตลอดมา ส่วนวันที่เดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ก็ให้คุณปู่คุณย่าช่วยดูแลให้ ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากค่ะ
เพราะคิดว่า เวลาที่ลูกไปโรงเรียนและอยากให้เราไปรับไปส่งนั้น ก็แค่ช่วงที่เค้ายังเล็กอยู่ เวลานี้มันผ่านไปเร็วมาก อย่างมากก็แค่ 10 กว่าปี หรือ 20 ปีเท่านั้น
ต่อจากนั้น เค้าจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ สามารถดูแลตัวเองได้อย่างดี ถึงตอนนั้น พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องไปรับไปส่งเค้าแล้วค่ะ
9. ทบทวน To-Do-List
ตั้งแต่ข้อ 1 เอวาแนะนำว่าให้คุณหาสมุดมาซักเล่ม เอามาทำเป็น To-Do-List ใช่มั้ยคะ?
พอคุณเริ่มต้นนั่งโต๊ะทำงานพร้อมทำงานปุ๊บ ให้หยิบสมุดนี้ขึ้นมาดูทันที
.
สมุดเล่มนี้จะบอกคุณว่า วันนี้ควรต้องทำอะไรบ้าง
ให้คุณเริ่มที่งานสำคัญที่สุด งานที่ยากที่สุด งานที่คุณอยากจะเก็บไว้ทำวันอื่นให้รู้แล้วรู้รอด งานที่อยากจะผัดวันประกันพรุ่ง ให้เริ่มที่งานนั้นนั่นแหละค่ะ เพราะสมองยังโล่ง พร้อมทำงานยากๆ ได้
เหมือนที่ Brian Tracy บอกว่า ให้กินกบตัวนั้นซะ
เมื่อกินกบเสร็จแล้ว งานต่อไปก็ง่ายเหมือนกินหมูแล้วล่ะค่ะ
.
ในฐานะที่เอวาเป็นคุณแม่ที่ทำงานที่บ้าน จะได้ทำงานของตัวเองตอนไหนก็ยังไม่รู้ บางทีสามีเรียกให้ออกไปดูงานด้วยก็ต้องไปทันที
แต่เอวาก็ยังสามารถทำงานต่างๆ ให้เสร็จได้ ก็ด้วยสมุด To-Do-List นี่แหละค่ะ
.
ทำงานเวลาไหนไม่สำคัญ สำคัญตรงที่ว่าเราทำงานได้เสร็จตามเป้าหมายมั้ย เพราะชีวิตคุณจะเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้ ด้วยการทำงานสำคัญเท่านั้นค่ะ
10. ลองทำสิ่งใหม่วันละ 1 อย่าง
เมื่อคุณต้องทำอะไรที่ไม่เคยทำ เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกกลัว ไม่กล้า บางทีก็ปฏิเสธไม่ยอมทำไปเลย เอวาเข้าใจคุณดีค่ะ อยากขอแนะนำว่า...ให้ยอมรับค่ะ
ยอมรับว่ากลัว ฉันรู้ว่าฉันกลัว แต่ไม่ยอมให้ความกลัวมาหยุดฉันได้
มีอย่างหนึ่งที่เอวาสงสัยมาตลอด เวลาใครจะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ "ทำไมคิดว่าทำแล้วผลลัพธ์มันจะไม่ดีล่ะคะ?"
คนส่วนใหญ่ไม่ยอมเปลี่ยน เพราะบอกว่าเปลี่ยนแล้วไม่รู้ว่าผลมันจะดีมั้ย
แต่ไม่เปลี่ยน ปัจจุบันก็ไม่ดีอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย
ถึงเปลี่ยนแล้ว มันไม่ดีอย่างที่คิด ก็ไม่เห็นเป็นไร ก็แค่กลับมาอยู่จุดเดิมที่เคยอยู่
.
หรือใครที่มีชีวิตดีอยู่แล้ว ลองเปลี่ยนดู ชีวิตที่ดีก็มีโอกาสเป็นชีวิตที่ยอดเยี่ยมได้
ถึงเปลี่ยนแล้ว ผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างใจ ก็แค่กลับมามีชีวิตดีๆเหมือนเดิม
ไม่มีอะไรเสียหายเลยค่ะ
.
เปลี่ยน อาจมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น
ไม่เปลี่ยน ก็อยู่แบบเดิมไปตลอดชีวิต
.
สิ่งใหม่ในวันนี้ เรื่องยากในวันนี้ มันจะกลายเป็นเรื่องง่าย เมื่อคุณได้ตัดสินใจและลงมือลองทำดู
.
คุณมีอะไรที่คุณอยากจะทำมั้ยคะ? ถ้ามีก็ให้เริ่มต้นทำเลย ยิ่งทำในตอนเช้ายิ่งดี ฝึกนิสัยกล้าลองทำอะไรใหม่ๆ ทุกวัน
.
เมื่อลองทำสิ่งใหม่ๆ แล้ว ผลลัพธ์จะมีอยู่ 2 ทาง คือ...
ทางที่ 1 ได้เรียนรู้
ลองทำดูแล้วแต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ แบบนี้คุณจะได้เรียนรู้ รู้ว่าทำยังไง เหมาะกับเรามั้ย ต้องไปเรียนไปศึกษาที่ไหนเพิ่มบ้างมั้ยเพื่อให้เก่งขึ้น
ทางที่ 2 ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ทั้ง 2 ทางที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณได้ลองทำสิ่งใหม่ มันก็ล้วนเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้นเลย จริงมั้ยคะ
.
อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง แต่จงกลัวชีวิตที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเลยจะดีกว่าค่ะ
CHECKLIST : Mompreneur Morning Routine
เช็คลิสต์ที่จะช่วยให้คุณสร้างนิสัยใหม่ ให้เป็นเรื่องที่สามารถที่ทำได้แบบอัตโนมัติ
(เหมือนการแปรงฟันทุกเช้าที่คุณไม่ต้องคิดแม้สักนิดว่าต้องทำยังไง)
10 นิสัยที่ Mompreneur ควรทำในตอนเช้าเพื่อให้เช้าวันใหม่เป็นวันที่ดี คือ บทความพูดได้ บทที่ 2 ที่เอวาอยากแบ่งปันในวันนี้นะคะ ขอให้คุณได้นำไปปรับใช้
กูรูหลายท่านบอกว่า ต้องใช้เวลาประมาณ 21 วัน จึงจะสามารถสร้างนิสัยใหม่ได้ ซึ่งไม่จริงเสมอไป
21 วัน เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสร้างความเคยชินเท่านั้น การจะสร้างนิสัยใหม่ได้ บางคนอาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น และบางคนอาจใช้เวลาน้อยกว่า 21 วันก็ได้
ก็ขอให้คุณทำต่อไป จนวันหนึ่งนิสัยนี้จะพัฒนาเป็นอีกความเปลี่ยนแปลงในด้านดี ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ
.
แล้วคุณล่ะคะ?
คุณชอบนิสัยไหน
เห็นว่าข้อไหนเป็นประโยชน์น่านำไปใช้ได้บ้าง
หรือได้ทำข้อไหนเป็นประจำแล้วบ้าง
.
พิมพ์คอมเมนต์ด้านล่างนี้มาคุยกันนะคะ
ขอให้ทุกๆวันของคุณ คือ วันใหม่แห่งความก้าวหน้าค่ะ
อย่าพลาดของขวัญประจำบทนี้นะคะ ดาวน์โหลดฟรี Checklist : Mompreneur Morning Routine
รัก
เอวา จิตสุทธิภากร