แชร์สิ่งดีๆ ไว้เรียนรู้ต่อ
ฟังบทความพูดได้ คลิกฟังที่นี่ค่ะ
eBook เรื่อง รายได้หลักล้านใต้หลังคาบ้านคุณ
เป็นเจ้าของ eBook ฟรีทันที กดปุ่ม Free Download ได้เลยค่ะ
วันนี้เป็นวันดี ถือเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ เอวาเลยอยากเล่าเรื่อง ความรักกับเวลา ให้ฟังค่ะ
ลูกของคุณไม่รู้ว่าเงินมากเงินน้อยต่างกันยังไง
ลูกของคุณไม่รู้ว่าไปเที่ยวต่างประเทศกับเที่ยวใกล้บ้านต่างกันยังไง
ลูกของคุณแยกไม่ออกว่าโรงเรียนชื่อดัง กับ โรงเรียนใกล้บ้าน อันไหนคือดีไม่ดี
แต่ลูกของคุณรับรู้ได้ชัดเจนแน่นอนว่า
ได้เจอหน้า ได้ใช้เวลากับพ่อแม่บ้างมั้ย พ่อแม่มีเวลาให้พวกเค้าบ้างมั้ย
เอวาไม่ตัดสินและไม่มีคำตอบที่ถูกต้องให้กับครอบครัวไหนนะคะ
คุณรักลูกและรักครอบครัวของคุณมากที่สุดอยู่แล้วค่ะ
เอวาก็รักลูกและรักครอบครัวของตัวเองมากที่สุดเหมือนกัน
และพยายามทำสิ่งที่เชื่อว่าดีที่สุดให้เค้าอยู่แล้ว
วันนี้อยากจะแบ่งปันวิธีการใช้เวลากับลูกๆให้ฟังค่ะ เป็นวิธีที่เรียนรู้มา นำมาใช้แล้วได้ผลดี จึงอยากมาบอกกันและกันค่ะ
1.Quantity is as important as Quality
ปริมาณเวลาที่ให้สำคัญมากเท่ากับเวลาคุณภาพ
เวลาคุณภาพกับปริมาณต้องไปด้วยกัน
มันไม่ใช่ว่า โอเค นี่คือ 20 นาทีนะ เรามามีเวลาคุณภาพกัน มันคงไม่ใช่แบบนั้นนะคะ
เวลาคุณทำงานสำคัญบางอย่าง
คุณให้เวลาทำงานนั้นแค่ 20 นาทีต่อวันหรือเปล่าล่ะกว่าจะเก่ง?
คุณก็ต้องให้เวลามันเกือบๆจะทั้งวัน
แล้วคุณก็สามารถทำงานนั้นเสร็จด้วยดี และเชี่ยวชาญได้ในที่สุดใช่มั้ยล่ะ
ก็คงเหมือนกันแหละค่ะ
คุณก็ต้องให้เวลาลูกมากที่สุดเท่าที่ทำได้
เล่นกับเค้า คุยกับเค้า พาเค้าไปเปิดหูเปิดตา เปิดโลกทัศน์ ไปออกกำลังกาย
แล้วในนั้นแหละ มันจะเรียกว่าเวลาคุณภาพขึ้นมาได้เอง
2.FACETIME
ไม่ใช่แค่อยู่ด้วยกันในหลังคาเดียวกัน
เวลาพูดคุยจับเข่าคุยกัน สัมผัสกัน โอบกอดกัน มองตากัน นั่นถึงจะนับเป็นเวลาที่มีให้กันนะคะ
ไม่ใช่นั่งทานข้าวแล้วต่างคนต่างดูโทรศัพท์
อย่าให้เด็กดูมือถือมากเกินไป เสี่ยงต่อ สายตาสั้น และโรคสมาธิสั้นโฟกัสไม่ได้อีกด้วย
เอวาไม่ได้แอนตี้สื่อต่างๆในมือถือนะคะ
ให้ลูกดูบ้าง ดูยูทูปในช่องที่มีประโยชน์ พวกการ์ตูนที่ไม่มีความรุนแรง
ยุคนี้พวกเราเสพติดหน้าจอมากเกินไปแล้วค่ะ ทั้งจอคอม จอมือถือ
ใช้มันให้เป็นประโยชน์มันก็มีประโยชน์มาก
แต่อย่าไปเสพติดและตกเป็นทาสของมัน เท่านั้นเอง
สิ่งที่สำคัญ สิ่งนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นอย่างสูงของลูกเลย
นั่นคือ จะต้องวางสิ่งที่ทำอยู่ทันที เมื่อลูกอยากคุยหรือเล่นด้วย
อย่าไปด่าเค้าว่า ไม่เห็นหรอ แม่ยุ่งอยู่ หรือ ไม่เห็นหรอ แม่อ่านหนังสืออยู่
เด็กไม่เข้าใจค่ะ
เค้าอาจเข้าใจได้ว่า งานหรือหนังสือนั้นมีค่ามากกว่าตัวเค้า
ถ้าเราไม่ได้อยากให้เค้าเชื่อแบบนั้น ก็อย่าไปทำค่ะ
3.ทานข้าวด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
เมื่อลูกเข้าโรงเรียน มื้อกลางวันเค้าต้องกินที่โรงเรียนอยู่แล้ว
ก็เหลือแค่อาหารเช้า อาหารเย็น เท่านั้นเอง
จะกินนอกบ้าน ในบ้าน จะทำเองหรือซื้อเค้ามา หรือยังไงแล้วแต่สะดวกเลยค่ะ
แต่ขอให้ได้นั่งทานข้าวด้วยกันทุกๆวัน
เมื่อก่อน ลูกเอวาทานข้าวกับพี่เลี้ยงค่ะ (ไม่ฉลาดมากๆเลย ยอมรับตรงๆ)
เพราะเอวาเดินทางเยอะ และทำงานมากค่ะ (ทำงานมาก แต่ไม่ได้แปลว่าผลลัพธ์เยอะ ต้องแยกให้ออกค่ะ)
ไม่ค่อยได้มาดูแลเค้าจริงจังหรอกนะคะ ตอนที่มีลูกคนแรก
พอได้เรียนรู้เรื่องการดูแลลูกมากขึ้นก็เข้าใจมากขึ้น
ปรับตัวเองให้มากขึ้น และมีความสุขมากขึ้นตามไปด้วย
ไม่มีอะไรที่มากเกินไปหรอกนะคะ สำหรับการเลี้ยงลูก
เยอะๆไว้อ่ะดีค่ะ โดยเฉพาะเวลา ให้เค้าเยอะๆเลย ยิ่งเยอะยิ่งดี
ไม่เกี่ยวกับเงินทองเลย
ไม่เถียงนะคะว่าเงินทองเยอะก็มีโอกาสเลือกได้มาก
แต่การเลี้ยงดู ด้วยความเข้าใจ ไม่ได้ต้องใช้เงินเลย
คุณมีลูกออกมาแล้ว เค้าเกิดจากคุณมาแล้ว
หน้าที่สำคัญ คือ เลี้ยงดูเค้าให้เติบโตอย่างมีคุณภาพที่สุด
นี่คือหน้าที่รับผิดชอบของพ่อแม่ทุกคน
รักลูกจริงๆ จงให้เวลาเค้าให้มากๆค่ะ
ให้เวลาลูกก่อน แล้วค่อยหาเวลาอื่นเพื่อสร้างอาชีพ สร้างความมั่งคั่งก็ได้
สมัยนี้พวกเราโชคดีมากที่สามารถหาเงินได้ทุกทาง สำคัญก็อยู่ที่ไอเดียแหละค่ะ
พัฒนาตัวเอง พัฒนาไอเดีย ให้สามารถหาเงินได้ทั้งยามหลับและยามตื่นนะคะ
และถ้าคุณกำลังสนใจสร้างรายได้จากที่บ้าน กำลังอยากรู้ และมีคำถามว่า...
แล้วฉันจะเริ่มต้นยังไงดี?
เอวามีคำตอบให้คุณค่ะ
eBook เรื่อง รายได้หลักล้านใต้หลังคาบ้านคุณ คือ ไอเดีย และ สูตรลับ 5 ข้อ สร้างเงินสไตล์คุณแม่ฟูลไทม์
เพื่อให้คุณได้เปิดมุมมอง เข้าใจวิธีการ และนำไปลงมือทำ ได้ทันที
เอวาเตรียมไว้ให้คุณแล้วที่นี่
eBook เรื่อง รายได้หลักล้านใต้หลังคาบ้านคุณ
เป็นเจ้าของ eBook ฟรีทันที กดปุ่ม Free Download ได้เลยค่ะ
ขอแสดงความยินดีกับการเริ่มต้นเส้นทางของการเป็น Mompreneur ค่ะ
อย่าพลาดของขวัญประจำบทความนี้นะคะ ดาวน์โหลดฟรี eBook : รายได้หลักล้านใต้หลังคาบ้านคุณ
รัก
เอวา จิตสุทธิภากร