#19 : 7 คำพูดมหัศจรรย์ ยิ่งพูดยิ่งรักกัน

0
9060
views
#19 : 7 คำพูดมหัศจรรย์ ยิ่งพูดยิ่งรักกัน.03

ฟังบทความพูดได้ ที่นี่ค่ะ


อ่านบทความ #19 : 7 คำพูดมหัศจรรย์ ยิ่งพูดยิ่งรักกัน

คนเป็นคุณแม่อย่างพวกเรา มีความสำคัญอย่างยิ่งเลยค่ะที่จะสร้างให้บ้านเป็นบ้าน เป็นหัวใจของทุกคน เป็นที่แรกและที่สุดท้ายที่ทุกคนในครอบครัวนึกถึง 

.

บ้านคือทุกอย่างในชีวิตของเอวาค่ะ 

เพราะเป็นคนติดบ้านมาตั้งแต่เล็กๆ

เมื่อแต่งงานสร้างครอบครัวเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งรู้ใจตัวเองว่าชอบอยู่บ้านมาก อยากจะอยู่มันทั้งวัน ทั้งกิน ทั้งนอน ทั้งทำงาน ต้องการจะทำที่นี่

.

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีลูก 

ลูกเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ให้ยิ่งได้รู้ว่า บ้านมีความหมายมากแค่ไหน

.

การสร้างครอบครัวให้หวานชื่นและมีแต่ความรัก ไม่ใช่เรื่องของความโชคดีค่ะ 

มันคือการปรับตัวอย่างยิ่งใหญ่

.

คนสองคน แตกต่างทั้งการเลี้ยงดู แตกต่างทั้งนิสัยใจคอ และความเคยชิน

จะให้เข้ากันได้เหมือนคนคนเดียวกันไม่ได้หรอกค่ะ 

ขนาดฝาแฝดยังไม่เหมือนกันเลย

นับประสาอะไรกับคู่สามีภรรยาที่ดูใจกันมาแค่ไม่นาน

.

คู่ของเอวา เราไม่ค่อยทะเลาะกันอะไรมากมาย ส่วนมากขัดกัน แป๊บเดียวก็หาย

แน่นอนค่ะว่า เอวาไม่ได้ถูกใจกับพฤติกรรมทุกอย่างของพี่โจ้

พี่โจ้ก็ไม่ได้ถูกใจนิสัยทุกอย่างของเอวา

ทุกอย่าง มันคือ การปรับตัว

.

เรื่องคู่ครอง เอวาไม่ได้โชคดีไปมากกว่าใครๆ ค่ะ แต่ที่โชคดีมันมีอยู่อย่างหนึ่ง คือ เอวารักการเรียนรู้

นอกจากพัฒนาตัวเองให้สามารถทำธุรกิจออนไลน์ได้แล้ว ทัศนคติบางอย่างจากในธุรกิจนั้น เรานำมาปรับใช้กับชีวิตครอบครัวได้ 

.

คุณก็ทำได้เช่นกัน

เริ่มต้นที่ตัวคุณเองก่อนค่ะ

.

ตัดสินใจเป็นคนมีความสุขกับชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัว

แล้วบ้านของคุณ จะเป็นหัวใจ เป็นที่รวมความรัก ความสามัคคี ของสมาชิกทุกคนได้ไม่ยากเลย

.

มันมีอยู่สิ่งหนึ่งค่ะ 

1 สิ่งที่สำคัญมากๆ กับความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ นั่นคือ คำพูด

.

คำพูด คือ เครื่องมือสำคัญที่ทำให้คนสองคนรักกันมากขึ้น และ ก็สามารถทำให้คนเกลียดกันเข้ากระดูกดำได้

คำพูด ใช้เป็นยาพิษก็ได้ ใช้เป็นน้ำอมฤตชโลมหัวใจก็ได้

.

วันนี้เอวามีความรู้มาแบ่งปันค่ะ

กับ 7 คำพูดมหัศจรรย์ ยิ่งพูดยิ่งรักกัน 

คำพูดที่ควรพูดกันเยอะๆ ในครอบครัวมีอะไรบ้าง มาเรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ 

.

1. "วันนี้เป็นไงบ้าง?"

.

"พ่อกลับมาแล้ว วันนี้เป็นไงบ้าง กินไรมาหรือยัง?" 

คำพูดต้อนรับสามีเข้าบ้านที่แสนจะธรรมดาแต่เต็มไปด้วยความห่วงใย 

.

สามีกลับมาจากทำงาน หน้าตาบูดบึ้ง บ่นว่าเหนื่อย เซ็ง ฝ่ารถติดมา สารพัดปัญหา

แต่พอเจอภรรยา ยิ้มให้ 

ถามว่ามีปัญหาอะไร เล่าให้ฟังบ้างสิ เผื่อจะช่วยอะไรได้

นี่คือ คุณสมบัติหนึ่งของคำว่า “คู่คิด” ค่ะ

.

สามีบ่นไม่นานหรอกค่ะ เพราะปกติผู้ชายจะไม่ชอบพูดถึงปัญหาอยู่แล้ว

แป๊บเดียว สถานการณ์ก็ผ่อนคลายขึ้น

พร้อมพูดคุยเรื่องเบาๆ กันได้อย่างสนุกสนานต่อไป

.

คุณต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า ผู้ชายเป็นเพศที่ไม่ชอบแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น

ถึงแม้เค้าจะมีปัญหาสารพัด ถ้าเค้าไม่อยากเล่า ไม่อยากบอก ก็อย่าคะยั้นคะยอ

เปลี่ยนเรื่องพูดไปเลยค่ะ ชวนคุยเรื่องลูก คุยเรื่องอื่น หาอะไรอร่อยๆ ให้เค้ากิน

สามี แพ้ภรรยาที่มีทัศนคติที่ดี มีความเชื่อ และ ความไว้วางใจในตัวเค้า

พูดกับเค้าดีๆ เค้าก็เป็นมนุษย์ปกติ ที่ต้องการคนคิดดี พูดดีด้วย

ภรรยาอย่างพวกเรา อยากมีครอบครัวที่มีความสุข ก็ต้องพร้อมที่จะส่งพลังแห่งความรัก ความเป็นห่วง ไปให้

มีอะไรไม่ชอบ คุยกันต่อหน้า หรือส่งไลน์หากันเป็นการส่วนตัว ห้ามโพสด่ากัน ห้ามโพสด่าพ่อแม่ของเค้า หน้าเฟสบุค

ข้อนี้สำคัญมากๆในยุค social แบบนี้

.

ฝากถึงคุณสามีด้วยนะคะ...ถ้าอยากมีครอบครัวที่ดี มีภรรยาที่ถูกใจ คุณสามีก็ต้องคิดถึงหัวใจภรรยาด้วย

ทำดี พูดดีกับภรรยา ให้เกียรติภรรยาเสมอๆ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง คุณก็จะได้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขเช่นกัน

เรื่องแบบนี้ ถ้าสองฝ่ายช่วยกัน สำเร็จง่ายๆ สบายๆ แน่นอนค่ะ 

ดูแลสามีอย่างดี แล้วเค้าจะดูแลคุณอย่างดีเช่นกัน 

.

2. "รัก"

.

ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าคำว่า “รัก” แล้วค่ะ

ความรัก คือ พลัง

ความรัก คือ ความเข้าใจ

ความรัก คือ แรงบันดาลใจ

ความรัก คือ แรงผลักดัน

ความรัก คือ การมองโลกในแง่ดี

ความรัก คือ สิ่งสวยงาม

ความรัก ก็คือ ความรัก

อยู่ที่เราจะให้ความหมายมันว่าอย่างไร

.

นอกจากความรักที่ให้กับพ่อแม่, สามี, และลูกๆ แล้ว

อย่าลืมว่า ความรักตัวเอง ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนเลยนะคะ

ความรักตัวเอง คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การรักผู้อื่นมีความหมายยิ่งขึ้น

ตื่นแต่เช้าทุกวัน ให้พูดสิ่งดีๆ กับตัวเอง

“วันนี้เป็นวันดีของฉัน”

“ฉันเก่งที่สุด”

“ฉันโชคดี”

“ฉันรักตัวเอง ฉันรักทุกคน”

“ฉันคู่ควรกับสิ่งที่ดีที่สุด”

“ฉันทำได้”

.

บอกรักสามี บอกรักพ่อแม่ บอกรักลูกทุกวัน บ่อยครั้งเท่าที่ทำได้

ถ้าคนเราใช้ความรัก เป็น เครื่องนำทาง มีหัวใจเสมือนเป็น GPS ให้ชีวิต 

แล้วก็ใช้ความคิด เป็น ตัวกลั่นกรอง ทำให้ตัดสินใจถูกต้องขึ้น

เอวามั่นใจว่าทั้งชีวิตนี้ของคุณจะพบแต่ความสำเร็จและความสุข สงบใจ อย่างแน่นอน

.

3. "ขอบคุณ"

.

ขอบคุณเป็นคำที่มีพลังมาก

แสดงความกตัญญูรู้คุณ รู้สึกยินดี เห็นคุณค่า กับสิ่งที่ได้รับ

.

คำขอบคุณ คือ คำพูดสำคัญที่ทุกคนควรพูดเสมอๆ

พูดขอบคุณกับทุกคนในบ้าน

และสอนให้ลูกรู้จักพูดขอบคุณด้วย

.

เมื่อเราเริ่มต้นขอบคุณ เราจะเริ่มต้นเห็นสิ่งดีมากยิ่งขึ้น

สามารถขอบคุณได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่

ขอบคุณกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ

ขอบคุณแม้ว่าเจอเรื่องไม่ดี ให้ขอบคุณและเปลี่ยนความหมายทันที

ขอบคุณตั้งแต่ตื่นนอน และก่อนหลับตานอน

ขอบคุณ แล้วชีวิตคุณจะมีเรื่องให้ขอบคุณได้อีกนับไม่ถ้วนทีเดียวค่ะ

.

คำตรงข้ามกับขอบคุณ คือ บ่นด่า วิจารณ์ 

ยิ่งบ่น ยิ่งด่า ก็จะยิ่งมีเรื่องให้บ่นให้ด่า มากขึ้นเท่านั้น เสียเวลามากค่ะ เลิกบ่นเลิกด่าไปเลยดีกว่า

.

4. "วันนี้เรียนรู้อะไรมาบ้าง?"

.

พวกเราโชคดีมากนะคะ ในยุคข้อมูลข่าวสารแบบนี้

อยากจะรู้อะไร อยากจะหาข้อมูลอะไร เพียง search นิดเดียว ก็ได้รู้แล้ว

.

เอวาอยู่บ้านเงียบๆ ก็ช็อปปิ้งเพียบเหมือนกันนะคะ อย่างคอร์สเรียนสัมมนาครูเก่งๆ จากต่างประเทศเนี่ย เอวาลงทุนกับสิ่งเหล่านี้เสมอๆ เลย 

.

แล้วมันง่ายมาก อยากเรียนก็ได้เรียน เรียนจากมือถือที่บ้านนี่แหละ 

อยากฟังออดิโอบุคดี ก็สั่งซื้อทางออนไลน์ได้เลย แค่ไม่ถึงนาทีความรู้นั้นก็วิ่งเข้ามาที่มือถือได้แล้ว

.

เราจะต้องเปลี่ยนมือถือเป็นมหาวิทยาลัย เป็นแหล่งความรู้และเป็นแหล่งหารายได้นะคะ

เราน่ะชอบคิดว่าตัวเองไม่เก่ง

แต่ที่จริงแล้ว เราเก่งกว่าที่ตัวเองคิดมากมายนักค่ะ 

ทุกคนมีมันสมองที่ดีเยี่ยม มีความสามารถ ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความเป็นเลิศอยู่แล้ว

ไม่มีข้อจำกัดอะไรเลยในชีวิต ว่าคุณจะเป็นอะไร จะมีอะไร จะมั่งคั่งแค่ไหน จะทำอาชีพอะไร 

ไม่มีข้อจำกัด ยกเว้นคุณจำกัดชีวิตตัวเอง

.

คนเก่ง คือ คนที่เรียนรู้ตลอดเวลา

จงฝึกตัวเองและลูกๆ ให้มีนิสัยรักการเรียนรู้ อย่ายึดติดแค่ผลการเรียนจากในโรงเรียนสิ่งนั้นไม่สำคัญเท่าการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเอง

.

เวลาก่อนนอน จัดให้เป็นเวลาอ่านนิทานดีๆ ฟังเพลงคลาสสิค ปรับคลื่นสมองให้พร้อมกับการพักผ่อนตลอดคืน

.

ถามลูกๆว่า วันนี้หนูได้เรียนรู้อะไรมาบ้างลูก? 

ถามแล้วฟังนะคะ คุณจะทึ่งกับสิ่งที่ลูกๆได้เรียนรู้มาทั้งวัน

.

เมื่อลูกรู้ว่า เดี๋ยวคืนนี้พ่อแม่ต้องถาม 

เค้าจะฝึกนิสัยช่างสังเกตสิ่งรอบตัว และฝึกนิสัยแห่งการเรียนรู้ขึ้นมาได้เองไม่มากก็น้อยค่ะ 

.

5. "หนูเยี่ยมมาก หนูเก่งมากๆ"

.

เลิกคิดได้แล้วนะคะว่า การชมลูก คือ การทำให้เค้าเหลิง มันไม่จริงเลย 

เรารักลูกที่สุด ลูกก็รักเราที่สุด 

พูดดีต่อกัน ชมเชยกัน มันดีที่สุดแล้ว

.

ก็เหมือนกับความเชื่อที่คนโบราณว่าไว้ ตอนคลอดลูกใหม่ๆ ว่า ลูกน่ะ อย่าไปอุ้มมันมากเดี๋ยวติดมือ ….

เอวาก็งงนะคะ ว่าแล้วจะปล่อยให้เค้าร้องแบบนั้นหรอ?

แม่ไม่อุ้มแล้วใครจะอุ้มล่ะ?

ลูกจะให้เราอุ้มกี่ปีกันคะ

ตอนนี้เค้ายังให้เรากอด หอม อุ้ม ทำไปเถอะค่ะ ทำเยอะๆเลย

.

การชมเชยพูดสร้างสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก พ่อแม่เป็นคนที่ทำหน้าที่นี้ได้ดีที่สุด

สอนเขาให้ทั้งพูดบอก 

และ สอนให้เค้าบอกตัวเอง เสมอๆว่า ลูกเป็นคนเก่ง เป็นเด็กอัจฉริยะ มีมารยาทดี หนูเป็นเด็กพูดเพราะ มีน้ำใจ เป็นที่รักของทุกคน เป็นเด็กพูดรู้เรื่อง ความจำดี

นี่ไม่ใช่การยกยอปอปั้นเด็ก 

ไม่ได้ทำให้เด็กเหลิง

แต่เป็นการเสริมให้เค้ารู้ว่า สิ่งนี้ที่กำลังทำ คือ ถูกต้อง ให้ทำอีก ทำอีกเยอะๆ

.

ถ้าบางเวลาเค้าแสดงความดื้อออกมาบ้าง

ก็สามารถพูดจูงใจไปในทางบวก เช่น วันนี้หนูทำไมอารมณ์ไม่ดีเลย เป็นอะไรหรือเปล่า ปกติหนูพูดรู้เรื่องและมีวินัยมากนะ

.

แล้วลองดูนะคะ ว่าเค้าจะตอบมาว่ายังไง?

บางวันเค้าเจอเรื่องท้าทายมา เรื่องที่ไม่สบายใจ ก็เป็นธรรมชาติที่จะแสดงออกมาบ้าง

ถามหน่อย ผู้ใหญ่ไม่เคยอารมณ์ไม่ดีเลยหรอคะ?

.

เด็กแต่ละคนมีสิ่งพิเศษอยู่ในตัว 

เค้าเกิดมาพร้อมกับความเป็นอัจฉริยะอยู่แล้ว 

ลูกคือคนที่เรารักที่สุด

การชื่นชม ยกย่อง ไม่มีต้นทุนอะไรเลย มีแต่กำไร ทำให้เค้ามีความมั่นใจ 

.

รู้แบบนี้แล้ว เรามาร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมในทางบวกให้เค้าเถอะค่ะ

รดน้ำพรวนดินต้นกล้าต้นนี้ ด้วยปุ๋ยชั้นเยี่ยม ให้เค้าเติบโตไปเป็นบุคลากรที่ดีอีกคนหนึ่งในอนาคตค่ะ

.

6. "มีความสุขจัง"

.

ความสุขสำหรับคุณหาง่ายมั้ยคะ?

ก็ต้องถามว่า แล้วเราเป็นฝ่ายที่รอความสุข หรือ สร้างความสุขกันล่ะ?

เพราะความสุขนั้น เราสร้างเองได้ ไม่ต้องรอใคร ไม่มีฤดูกาล ไม่ต้องรอเวลา ไม่ขึ้นกับสถานที่ มันง่ายจริงๆ นะคะที่จะหาความสุข

.

ส่วนความทุกข์ ความกังวลใจ ไม่สบายใจใครๆก็มีค่ะ ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์คนหนึ่ง

แล้วไอ้ความทุกข์ที่เกิดขึ้น จากตัวเองหรือคนอื่นก็ตาม ก็เพราะเราเป็นคนอนุญาตให้มันเข้ามาเอง ยอมให้ความทุกข์ เข้ามาทำลายความสุขลงไปต่อหน้าต่อตา

.

ทุกครั้งที่ลูกร้องไห้ 

เอวาจะสอนว่า เวลาร้องไห้คือเสียเวลาแห่งความสุขไปทุกวินาที

.

เมื่อเข้าใจว่าคนเราเป็นเจ้าของความสุขของตัวเองแล้ว ยากขึ้นนะคะ ที่จะยอมให้ความทุกข์เข้ามาแทนที่ได้ง่ายๆ 

ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และยาวนานขึ้นเสมอ

.

นอกจากเวลาดูแลลูก เอวาสามารถนั่งเรียนออนไลน์ เขียนบทความได้เสมอๆ มีความสุขมากค่ะ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณแม่ได้มีไอเดียทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ จากที่บ้านได้

.

พูดถึงความสุขบ่อยๆ คิดบ่อยๆ แล้วเราจะกลายเป็นสิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว อนุญาตให้ตัวเอง เป็นแม่เหล็กปล่อยคลื่นแห่งความสุขให้กระจายไปทั้งบ้านเลยนะคะ

.

7. "ชีวิตของเรา มั่งคั่งเหลือเฟือ"

.

เราทุกคนอยู่ในโลกแห่งความอุดมสมบูรณ์ เงินทองมากมายมีอยู่ทั่วไป ไม่มีคำว่าขาดแคลนเลย เราแค่ลงมือทำ เราก็สามารถร่ำรวยได้แล้ว 

.

แล้วทำไมบางคนถึงยังจน บางคนถึงได้รวยแล้วรวยอีก 

สาเหตุเดียวมาจาก “ทัศนคติต่อความรวย” ค่ะ 

ทัศนคติจะสะท้อนสิ่งที่คุณคิดต่อเงิน ต่อความมั่งคั่ง และต่อการทำงาน

.

คนที่เรียนเก่ง เพราะปรารถนาที่จะเรียนเก่ง

สุดยอดนักขาย ปรารถนาที่จะเอาของดีไปถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด

คนสุขภาพดี เพราะปรารถนาที่จะมีร่างกายที่แข็งแรง

.

เช่นเดียวกัน

คนรวย เพราะมีความปรารถนาที่จะเป็นคนรวย มั่งคั่งในทุกๆ ด้านของชีวิต

เมื่อคุณคิดและตัดสินใจแล้วว่า ต้องการที่เป็นคนรวย คุณเชื่อว่าตัวเองเป็นอย่างนั้น คุณจะทำทุกวันไปสู่ทางที่จะกลายเป็นคนรวยได้

.

เงินไม่ใช่คำตอบของความสุขในครอบครัวก็จริง แต่เงินคือปัจจัยทำให้ครอบครัวหาความสุขได้ง่ายขึ้น

.

ถ้าจักรวาลนี้ไม่มีความขาดแคลน มีความมั่งคั่งมากมายรอให้คุณมาตักตวงไป ยังมีเหตุผลอะไรอีกค่ะ ที่คุณจะไม่ตัดสินใจเป็นคนรวยตั้งแต่วันนี้

.

พูดกับตัวเองและครอบครัวทุกวัน ว่า “ชีวิตของเรามั่งคั่งเหลือเฟือ”

.

นอกจากมีเหลือเฟือแล้ว ก็ขอให้แบ่งปันความมั่งคั่งด้วยวิธีที่คุณชอบและศรัทธาครอบครัวเราก็จะเป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศชาติต่อไปได้ค่ะ

.

ความอบอุ่นในบ้าน คือ รากฐานความสำเร็จของชาติ

ขออวยพรให้ Mompreneur คนเก่ง ประสบความสำเร็จได้ทุกอย่างทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน และเรื่องความรักนะคะ

ดาวน์โหลดบทความไว้อ่าน คลิกที่นี่ 

ดูคลิปวีดีโอ Youtube คลิกที่นี่

สอนลูกด้วยหัวใจ วัยไหนก็มีความสุข

รัก

เอวา จิตสุทธิภากร

Mompreneur