#9 : ความรู้ 5 ข้อที่ควรต้องมีเพื่อที่จะปลอดหนี้ให้เร็วที่สุด

"เงินไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิต แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตต้องใช้เงิน" 

เรื่องเงินเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เปรียบเสมือนออกซิเจนในร่างกาย คือ ขาดเงินเมื่อไหร่ตายเมื่อนั้น อันนี้จริงๆนะคะ ไม่ได้พูดโอเวอร์เลย

เงินที่มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น มีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น

เรื่องการเงินเป็นเรื่องสำคัญ เป็นความรู้ที่สำคัญมาก ในเมื่อตลอดชีวิตคุณต้องเกี่ยวข้องกับเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้น พาตัวเองเข้ามาเรียนรู้เรื่องนี้ให้เร็วที่สุดค่ะ

วันนี้จะคุยกันเรื่อง ชีวิตปลอดหนี้ค่ะ เพราะอะไรเราถึงต้องหนีให้ไกลจากหนี้สินให้เร็วที่สุด?

หนี้ เป็นศัตรูตัวร้าย คอยเกาะกินพลังชีวิต และ พลังใจ 

หนี้ เป็นศัตรูฆ่าความฝัน ฆ่าความหวัง 

คนที่ประสบความสำเร็จเขาจะไม่มีหนี้สิน ไม่ก่อหนี้สิน ไม่ใช้เงินเกินตัว เค้าใช้น้อยกว่าที่หาได้

มีหลายคนที่หาได้เยอะแต่ใช้น้อย ต้องไปหาความรู้เพิ่มเพื่อหาวิธีเอาเงินไปลงทุนอีกด้วยนะคะ

. 

จากสถิติพบว่า ปัญหาเรื่องเงิน เป็นปัจจัยต้นๆที่ทำให้ครอบครัวทะเลาะกัน

เด็กที่เติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องเงิน จะพาทัศนคติ "ความเกลียดเงิน" ติดมาด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาและความตั้งใจสูงมากในการรักษา

เรื่องการเป็นหนี้ เอวาผ่านมาครั้งหนึ่งค่ะในชีวิต เข้าใจดีว่า ทรมานมากแค่ไหน
โชคดีที่ได้อ่านหนังสือ ได้รับความรู้ที่ถูกต้อง คือ ควบคุมตัวเองให้ใช้น้อยกว่าที่หาได้ ขายของที่ไม่จำเป็นออกไป และ สร้างรายได้เพิ่ม จึงทำให้สามารถปลดหนี้ได้อย่างรวดเร็ว 

.
ถ้าตอนนี้ คุณยังมีหนี้มีสินอยู่ จะทำอย่างไรได้บ้าง มาเริ่มกันเลยค่ะ กับ ความรู้ 5 ข้อที่คุณต้องมีเพื่อจะปลอดหนี้ให้เร็วที่สุด 

1. ทัศนคติที่ถูกต้อง

เริ่มต้นที่ความคิดกันก่อนเลย ต้องมีความคิดที่เชื่อว่า "หนี้คือศัตรูของชีวิต"

ห้ามคิดว่า "เป็นหนี้แค่นี้เอง จ่ายเดือนละพันกว่าบาทเอง ไม่เป็นหรอก อยากได้ ซื้อไปเหอะ”

ก่อหนี้ตรงนี้นิดหนึ่ง ตรงนู้นหน่อยหนึ่ง มันก็จะไม่เป็นไรๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ

.

ลงท้าย คุณจะมาค้นพบว่าไอ้หนี้นิดๆหน่อยๆ ทั้งหลายที่มีอยู่ รวมๆ กันแล้ว มันเยอะท่วมหัว อาจเยอะมากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนหรือทั้งปีก็เป็นได้ ไหนจะดอกเบี้ยอีก โอ๊ยยยย เรื่องใหญ่เลยล่ะทีนี้ 

.

อยากได้อะไร ต้องมีเงินสดพอที่จะซื้อ ถ้ามีเงินสดไม่พอ ก็อย่าซื้อ แค่นี้ค่ะ จบ!

2. รู้ว่าตอนนี้มีหนี้สินอยู่เท่าไหร่

สมมติว่าวันนี้ขับรถหลงทางอยู่ในกรุงเทพ โทรศัพท์ไปหาเพื่อนเพื่อถามทาง คำถามแรกเพื่อนต้องถามคุณก็คือ "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน"

ขนาดกด GPS เพื่อถามทาง ระบบก็ต้องประมวลผลว่าตอนนี้คุณอยู่ตรงไหน จะเริ่มต้นเส้นทางตรงไหน จริงมั้ยคะ?

.

ก่อนจะปลดหนี้ ต้องรู้สถานะตัวเองก่อน

เขียนลงมาเลยค่ะ เขียนในกระดาษว่ามีหนี้ตรงไหนบ้าง กับสถาบันไหนบ้าง เป็นหนี้จากอะไรบ้าง ไปก่อไว้ตอนไหนบ้าง

.

และที่สำคัญหนี้ที่คุณก่อไว้เป็นการส่วนตัว ตอนนี้ใกล้ถึงทางตัน ไปต่อไม่ไหวแล้ว หันหน้าคุยกับครอบครัวค่ะ

อย่าลืมว่าพวกเค้ายังคอยสนับสนุนคุณอยู่ เปิดอกคุยกัน ถ้าช่วยเรื่องเงินไม่ได้ ช่วยเหลือทางใจ เป็นกำลังใจก็ยังดี อย่างน้อยคุณก็มีคนเข้าใจและช่วยหาทางแก้ปัญหาได้

.

เอวามั่นใจว่า เค้าจะมีวิธีเค้าจะมีวิธีดีๆ มีคำแนะนำดีๆ มาช่วยคุณ ตรงนี้แหละค่ะที่เค้าเรียกว่า ร่วมทุกข์ ร่วมสุข

และเมื่อเวลาผ่านไป ภาระนี้ผ่านไป มองหันมาพบว่ามีคนที่รักยืนจับมืออยู่ข้างๆ

คนที่คุณอยากแบ่งปันเวลามีความสุขมากที่สุด ก็คือคนคนนี้แหละค่ะ

3. หาความรู้เพื่อหาทางออก

คุณไม่สามารถแก้ปัญหา จากระดับความรู้ที่ทำให้เกิดปัญหานั้นได้

ทำแบบเดิม แต่หวังผลลัพธ์ใหม่นั้น ไม่มีทางเป็นไปได้

.

วันนี้ถ้ากำลังเป็นหนี้อยู่ ขอให้มองหาความรู้ค่ะ

ให้คุณพัฒนาความรู้ จากหนังสือ จาก podcast หรือ จากคอร์สสัมมนาดีๆ ฟรีๆ มีเยอะแยะเลย

อย่างน้อยอ่านและฟังบทความพูดได้ นี้ก็น่าจะช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อยแล้วนะคะ 

.

มีหนังสือที่ช่วยให้คุณเอาชนะเกมการเงินได้มากมาย ส่วนตัวเอวาแนะนำเล่มนี้ค่ะ เป็นเล่มโปรดที่เอวาแนะนำเสมอ นั่นก็คือ "เศรษฐีชี้ทางรวย" ที่แปลมาจากหนังสือคลาสสิคอายุเกือบร้อยปี ชื่อเรื่องว่า "The Richest Man in Babylon" หนังสือราคาเล่มละร้อยกว่าบาทเล่มนี้จะช่วยคุณได้แน่นอนค่ะ 

4. รู้จักควบคุมตัวเอง

การควบคุมตนเองได้ ถือเป็นกฎอีกข้อหนึ่งของคนประสบความสำเร็จค่ะ

ไม่ใช่แค่ด้านการเงินอย่างเดียว ด้านความสัมพันธ์ ด้านการงาน อะไรต่างๆ ก็ต้องอาศัยการควบคุมตนเองทั้งนั้น

ควบคุมสิ่งแรกที่ต้องทำให้ได้ คือ ควบคุมความคิด ให้คิดแต่เรื่องที่ดีและเป็นประโยชน์

.

เอวามั่นใจว่า ทุกอย่างที่จำเป็นในชีวิต ทุกคนมีหมดแล้ว ที่ทุกวันนี้ยังต้องซื้อของ เพราะอยากได้ อยากมี สนองความอยาก ความต้องการของตัวเองล้วนๆ ถ้าฐานะสบายๆ มีเหลือมากพอแล้วอยากได้อะไรก็ซื้อไปเถอะค่ะ เป็นการหมุนเวียนกระแสเงิน ให้คนที่ได้รับเงินคุณเอาไปทำประโยชน์ต่อได้ด้วย 

.

แต่ถ้าตอนนี้ยังไม่มีเหลือมากพอ แถมยังเป็นหนี้อีกด้วยล่ะก็  "การควบคุมตัวเอง" ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำมากที่สุดค่ะ

อยากได้อะไร ถามตัวเองว่า จำเป็นมั้ย?? กลับมาคิดอีก 7 วัน 

เชื่อเถอะว่า แค่เดินออกจากร้าน ก็ลืมแล้ว ไม่ได้จำเป็นต้องซื้อจริงๆ หรอกค่ะ 

.

นักขาย นักการตลาด เค้าเก่งตรงที่กระตุ้นอารมณ์ให้คนเราอยากได้ ดังนั้น คุณก็ต้องรู้เท่าทัน ควบคุมอารมณ์ ควบคุมความคิดให้ได้ ทีนี้ชีวิตคุณจะปลอดหนี้แน่นอนค่ะ