แชร์สิ่งดีๆ ไว้เรียนรู้ต่อ
ฟังบทความพูดได้ ที่นี่ค่ะ
อ่านบทความ #11 : 10 เรื่องเปลี่ยนชีวิตที่เอวาได้เรียนรู้ และมันอาจเปลี่ยนชีวิตของคุณ
เอวาเริ่มต้นเรียนความรู้เพื่อพัฒนาตัวเองมาเกือบ 4 ปีแล้วค่ะ
ในตอนนั้นอายุสามสิบกว่าๆ มีชีวิตที่ดีค่ะ แต่ชีวิตมันไร้ทิศทาง เพราะเราไม่ได้รู้จักตัวเองจริงๆ
.
รู้ว่าอยากเป็นคนประสบความสำเร็จ แต่ไม่รู้ว่าชอบอะไร รักอะไร อยากทำอะไร และเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต คืออะไร
.
จึงเริ่มต้นออกเดินทาง เพื่อค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ การออกเดินทางของเอวา นั่นก็คือ การเรียนรู้
หลังจากเรียนจบปริญญาโท เมื่อปี 2007 แล้ว เอวาแทบไม่ได้เรียนอะไรอีกเลย เมื่อต้องการคำตอบใหม่ให้ชีวิต การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จึงเป็นเรื่องที่เอวาเลือกทำเป็นอย่างแรกค่ะ
.
เข้าเรียนสัมมนา อ่านหนังสือ และศึกษากฎแห่งความสำเร็จต่างๆ ทำให้รู้ว่าโลกนี้ยังมีอะไรอีกเยอะนัก มีสัจธรรมความจริงอีกมากมายที่ไม่เคยรู้เลย
.
ได้รู้ซึ้งถึงความรักของพ่อแม่ ที่เลี้ยงดูเรามาด้วยความรัก บางทีก็ห้ามทำโน่น ห้ามทำนี่ ตอนนั้นไม่เคยเข้าใจว่าทำไม แต่พอได้ลองผิดลองถูกอะไรหลายอย่างเอง ก็รู้ว่า ท่านไม่อยากให้เราเสียใจ ไม่อยากให้เราล้มเหลว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ
.
หลังจากนั้นก็เรียนรู้อีกหลายอย่าง ได้เริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองจากที่บ้านไปพร้อมๆ กับการเลี้ยงลูก ใช้เวลาไม่นานก็จับเงินล้านได้ แล้วก็คิดว่า เฮ้ย ฉันนี่แน่ว่ะ! เพิ่งทำแค่ธุรกิจเดียวก็สำเร็จแล้ว ตอนนั้นยังมีความคิดที่ไม่ได้พัฒนาเท่าไหร่ค่ะ คิดว่าฉันนี่เก่งเหลือเกิน แล้วก็คิดว่าคนอย่างฉันทำอะไรก็ต้องสำเร็จแน่นอน ติดกับดักความสำเร็จแค่ครั้งเดียวไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
.
หอบความยะโสและความทะนงตัวไปเริ่มต้นอีกธุรกิจหนึ่ง ซึ่งไม่เคยรู้จักมันเลย เจอคนทั้งดีและไม่ดี ส่วนผลลัพธ์คุณคงไม่ต้องเดานะคะ เละเทะมากค่ะ ขาดทุนย่อยยับ ทำให้เงินเก็บทั้งหมดของครอบครัวหมดลงภายในไม่กี่เดือน แถมเป็นหนี้อีกครึ่งล้าน
.
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ไม่ใช่มีแค่เรื่องร้ายๆ อย่างเดียว มันมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่มากมาย นั่นคือ
1. ทำให้เอวามาศึกษาเรื่องเงินอย่างจริงจัง และหนังสือเรื่อง the richest man in babylon คือ จุดเริ่มต้นแห่งการเรียนรู้วิธีการใช้เงิน กฎแห่งความมั่งคั่ง และกฎ 5 ข้อของทองคำที่เอวายึดถือตลอดมา
.
2. ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม สิ่งเดียวที่เจ้าของกิจการต้องทำ ห้ามผลักภาระไปให้คนอื่น คือ การตลาด เพราะไม่มีใครที่จะรักและเข้าใจธุรกิจของคุณเท่ากับตัวคุณเองอีกแล้ว
.
3. คนที่รักและหวังดีกับเราจริงๆ มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ เราให้มิตรภาพที่ดีกับเค้าได้ เราส่งความรักให้เค้าได้ เราช่วยเหลือเค้าและแบ่งปันความรู้และความสุขให้เค้าได้ แต่อย่าไปคาดหวังว่าเค้าจะคิดเหมือนกัน
.
หลังจากนั้น เอวาก็มุมานะทำในสิ่งที่ถนัดและรัก ก็คือ การสอนให้คุณแม่เป็น Mompreneur ใช้เวลาไม่นาน เอวาก็ใช้หนี้หมด และเริ่มสร้างตัวขึ้นมาใหม่
.
จากเหตุการณ์นั้น เอวาได้บทเรียน ได้ประสบการณ์ ได้ความแข็งแกร่งขึ้น เป็นคนเข้มแข็งมากขึ้น วันนี้จึงอยากรวบรวม 10 เรื่องที่ได้จากการเรียนรู้ บางเรื่องสำคัญมากๆแต่ไม่เคยรู้เลย บางเรื่องรู้อยู่แล้ว แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญ
.
10 เรื่องนี้เมื่อได้รู้แล้วมัน ปลดล็อคชีวิตเอวาเลย ตอนนี้ชีวิตมีความสุขเพราะเลือกแต่ความสุขจริงๆ ค่ะ
จริงๆ แล้วความสุขมันเรียบง่ายมาก แค่คุณตัดสินใจเป็นคนมีความสุข และฝึกเป็นคนมีความสุขง่ายๆ ได้ คุณก็จะมีความสุข และ จะมีความสุขมากขึ้นได้อีก ทันทีค่ะ

1. อย่าแสวงหาการยอมรับ
เรื่องนี้นำมาเขียนเป็นเรื่องแรกเลยเพราะสำคัญมากๆ ค่ะ
เมื่อก่อนเอวาไม่มั่นใจตัวเอง แคร์คำพูดคนอื่นเกือบตลอดเวลา
จะทำอะไรจะต้องคอยถามความเห็น แล้วดันไปถามคนที่ไม่เคยทำแบบนั้น หรือ เคยทำมาแต่ไม่สำเร็จ
แล้วก็เอาความเห็นของคนเหล่านั้นมากำหนดชะตาชีวิตตัวเอง
ทำไปทำมา ก็กลายเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจไปเลย
.
พอคิดได้ แล้ว “เลิกแสวงหาการยอมรับจากผู้อื่น” มีใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ไม่ใช่ประเด็น
จะมีใครไม่ชอบเรา ไม่ชอบสิ่งที่เราทำ ก็ไม่ยึดถือเป็นเรื่องสำคัญ
.
เชื่อมั่นในหัวใจตัวเอง ฟังหัวใจตัวเอง คิดทำอะไรที่ถูกต้องและถูกใจ ทำไปเลย
เพราะการอธิบายตัวเองเสียเวลามาก ไม่มีใครเข้าใจคุณทุกอย่างหรอกค่ะ เอาเวลานั่งอธิบาย มาทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จเร็วๆ ดีกว่า
.
เอวาอยากให้เคล็ดลับว่า ทุกครั้งที่เกิดคุณลังเลสงสัยหรือสับสนอะไรก็ตาม แทนที่จะไปถาม ไปขอความเห็น หรือแสวงหาการยอมรับจากใคร ขอให้ตรวจสอบไปที่หัวใจของตัวเอง
.
คุณมีหน้าที่รับผิดชอบเป้าหมายและความฝันของตัวเอง คุณไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของชีวิตคนอื่น ไม่มีใครรู้เรื่องของตัวเราเท่าตัวเราเองหรอกค่ะ
.
แล้วคุณจะรู้ว่า คุณสามารถทำอะไรได้มากมาย ตราบเท่าที่ไม่ต้องสนใจความคิดเห็นจากใคร
2. ทำสิ่งที่รัก แล้วเงินจะตามมา
คุณจะร่ำรวยได้จากงานที่รักเท่านั้น ไม่ใช่ว่าเอวาพูดเองนะคะ แต่การันตีจากเศรษฐีทุกคนในโลกนี้ ขั้นตอนมันเป็นอย่างนี้ค่ะ
- คุณชอบทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ
- ทำมันทุกวันเหมือนเป็นลมหายใจ
- ทำจนเก่ง และเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง จากครูเก่งๆเพิ่มอีกด้วย
- คุณกลายเป็นคนเก่งสุดๆ ในงานนั้น เรียกว่า หาคนเทียบยาก
- ไม่ว่าใครที่ต้องการงานนี้ จะต้องตรงมาจ้างคุณ
- คุณเป็นอันดับต้นๆ ของสายอาชีพ
- ถึงตอนนี้ไม่ต้องสงสัยแล้วว่า คุณจะรวยได้หรือไม่
- คุณมีความสุขสุดๆ เพราะได้ทำสิ่งที่รักทุกวัน
- แล้วยังมีคนแย่งเอาเงินมากองให้คุณ ให้คุณได้ตื่นไปทำสิ่งที่รักทุกวันอีก
- คุณเลือกงานได้ เลือกเวลาทำงานได้ เลือก lifestyle ได้
- คุณจากไปพร้อมกับตำนาน เป็น role model ให้คนรุ่นหลัง
นี่คือสเต็ปธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ เพราะทุกคนเกิดมาเก่งไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
แต่คนเราดันไปทำในสิ่งตรงข้ามกับหัวใจ ยอมทิ้งสิ่งที่รักสิ่งที่อยากทำ มุ่งไปหาเงินก่อน หาความมั่นคงก่อน
.
สุดท้าย ไม่ได้ทั้งเงิน เพราะทำงานที่ไม่รักจึงไม่รวย
สุดท้าย ไม่ได้ทั้งความมั่นคง เพราะความมั่นคงไม่มีอีกแล้วค่ะในโลกนี้
.
ทำงานที่รัก คือ ปัจจัยสำคัญทำให้ก้าวไปสู่ financial freedom
หางานที่รัก คือ ความรับผิดชอบสิ่งแรกของชีวิตมนุษย์
ทำสิ่งที่รัก แล้วทุ่มเทสุดชีวิตสุดหัวใจในงานนั้น ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่มันจะตามมาค่ะ

3. เรียนรู้เรื่องการเงิน
เราใช้เงินกันทุกวัน เงินเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ
เงินไม่ได้สำคัญที่สุด แต่เงินทำให้เราสะดวกสบายและมีชีวิตที่เต็มศักยภาพได้มากกว่า
.
เงินเป็นเรื่องสำคัญมาก และเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้เป็นอันดับต้นๆ พ่อแม่อย่างเราต้องเป็นคนสอนให้ลูกๆ รู้จักเรื่องเงินด้วยตัวเอง อย่าคิดพึ่งระบบการศึกษาและโรงเรียนให้เค้าสอน เพราะเค้าไม่สอนค่ะ เป็นเรื่องน่าเสียดายจริงๆ
.
เมื่อก่อนเอวาไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการเงินเลยค่ะ มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด หาได้เยอะก็ใช้เยอะ วันที่ว่างต้องเข้ากรุงเทพไปช้อปปิ้ง ซื้อของที่ไม่จำเป็นมากเก็บเต็มบ้าน หมดเงินไปมากมายค่ะ
.
จากที่เล่าไปตอนต้น เอวาทำธุรกิจผิดพลาด หมดเงินไปมากมาย แล้วก็ดีเหมือนกันค่ะที่เจอปัญหา ทำให้ได้มาศึกษาเรื่องเงินและกฎของการเงินอย่างจริงจัง
.
เมื่อได้รับเงินเข้ามาจากแหล่งไหนก็ตาม ต้องแบ่งเงินไว้เป็น 3 กองเสมอๆค่ะ คือ
1. จ่ายให้ตัวเองก่อน 10% ของรายได้
2. ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 80% และบริจาคการกุศลเมื่อมีโอกาสด้วย
และ 3. อีก 10% เอาไว้ปรนเปรอความสุขของตัวเองและครอบครัว ไปเที่ยว ไปกินของอร่อยๆ ซื้อของเล่น เป็นต้น
.
เอวาทำแบบนี้มาเป็นปีๆ แล้ว รู้สึกได้เลยถึงความมั่นคงในชีวิต
เวลาไหนที่เงินไม่สำคัญน่ะหรอคะ? ก็คือ เวลาที่คนเราไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลเรื่องเงินอีกแล้ว มีเงินเหลือเฟือมากพอให้ใช้จ่ายและดูแลตัวเองได้
เมื่อนั้นแหละค่ะ เราจะสามารถคิดไอเดียดีๆ ได้อีกมาก เพราะหัวสมองคุณคิดอะไรไม่ออกหรอกค่ะ เวลาที่ท้องยังหิวอยู่
4. ครอบครัว คือ ของขวัญ
ครอบครัว คือ ของขวัญที่มีค่าที่สุด
ครอบครัว คือ โรงเรียนแห่งแรก
คือ ที่บ่มเพาะฝึกฝนนิสัย และเป็นที่เรียนรู้คำว่ารักได้อย่างลึกซึ้งที่สุดแล้วค่ะ
.
จงแบ่งปันความสุขและความสำเร็จกับพวกเค้าเป็นคนแรกเสมอ
เพราะในเวลาที่คุณต้องเผชิญกับความทุกข์ หรือ ความยากลำบากต่างๆ
ที่สุดแล้ว ไม่มีใครจะมาร่วมฝ่าฟันอุปสรรคกับคุณได้หรอกค่ะ ยกเว้น ครอบครัวของคุณเองเท่านั้น
.
จงรักและดูแลของล้ำค่านี้ไว้ให้มากๆ ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแข็งแรงที่สุด
อย่าใช้เวลา อย่าให้เวลากับเรื่องนอกบ้านมากเกินไป จนไม่เห็นความสำคัญของครอบครัว เมื่อถึงเวลานั้น อาจเยียวยาไม่ทันแล้ว
.
คงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าวันที่คุณสำเร็จสูงสุด มีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว แต่หันไปมองรอบๆ ตัว ไม่มีใครรอจับมือกอดแสดงความยินดีด้วยซักคน ความสำเร็จแบบนั้นคงว้าเหว่และอ้างว้างเหลือเกินค่ะ

5. อาชีพ “แม่” มีคุณค่าที่สุดในโลก
เลี้ยงลูก เป็นงานสำคัญ เป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของพ่อและแม่
เลี้ยงลูก คือ งานสร้างบุคคลสำคัญของโลก ที่มีเอกลักษณ์ ไม่มีใครเหมือน และ ไม่เหมือนใคร
.
อาชีพแม่ ไม่มีใครกำหนดเพดานเงินเดือน หรือ อัตราก้าวหน้า
อาชีพแม่ ทำงานหนักที่สุดในโลก ดูแลเด็กตัวเล็กๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ตื่นตอนเช้าจนถึงเวลานอนหลับ
.
ความหวังเดียวของแม่ คือ อยากให้เด็กคนนี้เติบใหญ่อย่างมีคุณภาพสูงสุด เติบโตไปเป็นอีกเมล็ดพันธุ์ที่ดีของสังคม
เป็นคนที่ฉลาดทั้ง EQ และ IQ เป็นอีกแสงสว่างหนึ่งของโลกใบนี้
.
คนเป็นแม่ ถือเป็นผู้ให้อย่างแท้จริงค่ะ
6. ชีวิตไม่เคยล้มเหลว
ชีวิตของคนเรา เปรียบเสมือนละครเรื่องหนึ่ง ที่ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทั้งทุกข์และสุข มีตื่นเต้น มีเสียใจ มีอุปสรรค กว่าจะ happy ending
ต่างกันตรงที่ ละครเรื่องนี้ เราต้องเขียนบท และ กำกับ เอง
.
ถ้าชีวิตของคุณไม่เคยเจออุปสรรคหรือความล้มเหลว แปลว่า ทั้งชีวิตนี้ คุณไม่เคยทำอะไรเลย
.
เมื่อเจอความล้มเหลวอย่างหนึ่ง จงหยุดเสียใจ หยุดเสียดาย คิดซะว่า ตอนนั้น คุณได้ทำดีที่สุดในจุดที่ยืนแล้ว
อดีตเป็นบทเรียน เป็นครูสอนเรา ไม่ให้ทำผิดซ้ำอีก ปล่อยวาง ยกโทษให้ตัวเอง แล้วเดินหน้าต่อ
.
ชีวิตของคุณ ไม่เคยมีคำว่า ความล้มเหลว ถ้าคุณไม่ให้ความหมายมันซะอย่าง
คุณไม่เรียกว่ามันคือความล้มเหลว คือ ความผิดพลาด มันก็จะไม่ใช่ความล้มเหลว ถ้าคุณไม่ยอม
.
เปลี่ยนความหมายไปเลย สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ประสบการณ์ คือ บทเรียน คือ การเรียนรู้
ประสบการณ์ บทเรียน และการเรียนรู้นั้น ฉันได้ผ่านมันมาแล้ว
และฉันรู้แล้วว่าทำยังไง ถึงจะไม่ต้องมีผลลัพธ์แบบเดิมอีก
.
แล้ววันนี้ก็คือวันใหม่ของคุณ วันใหม่ ที่จะสร้างโอกาสใหม่ สร้างทางเดินอันใหม่
เมื่อเริ่มตัดสินใจทำสิ่งใหม่ๆแล้ว คุณก็จะเจอกับผลลัพธ์อันใหม่ คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้ค่ะ

7. คนโชคดี คือ คนตัดสินใจ
นาทีที่คุณตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในอีกทางหนึ่ง มันคือวันที่ความโชคดีเป็นของคุณ
.
คนโชคดี ลงมือทำทันที ไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น
คนโชคดี คนที่ประสบความสำเร็จ เค้าก็ไม่มีเวลา ไม่ได้มีเงินมากมาย และไม่มีความรู้เหมือนกันในตอนแรก
แต่เพราะพวกเค้าตัดสินใจมีชีวิตอีกทางหนึ่งที่ไม่เหมือนเดิม เค้าจึงได้เริ่มต้น ทำวันละเล็ก วันละน้อย จนกระทั่งกลายเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ และความสำเร็จได้
.
วันนี้คุณตัดสินใจแล้ว ก็ให้เริ่มต้นไปเลย อะไรก็ได้ แม้ว่าเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
เพราะการเริ่มต้นนั้นยากที่สุดแล้ว แต่เมื่อได้เริ่มแล้ว การทำต่อจะใช้แรงและความพยายามน้อยลง จะมีความสนุกมาแทนที่
ดังนั้น จงทำวันนี้ และ ทำทันที ค่ะ
8. ลงทุนกับการพัฒนาตัวเอง
อยากจะสร้างรายได้ให้มากขึ้น จะต้องเพิ่มความรู้ และเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ๆ
คุณจะใช้ความรู้เดิมเท่าที่มีอยู่ ทำเหมือนเดิม หรือ ทำงานให้หนักขึ้น แล้วหวังผลลัพธ์ใหม่ ไม่ได้ค่ะ
.
คนที่รักการเรียนรู้ มีโอกาสมากกว่าในธุรกิจยุคนี้
ถ้าคุณอยากพัฒนาตัวเอง ก็ต้องลงทุนเวลาและเงิน ในการเรียนรู้ทักษะหลายๆ ด้าน เลือกพัฒนาแค่ทักษะที่คุณชอบ ถนัด และรักที่จะทำก็พอค่ะ
ไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่าง
.
คนเราไม่สามารถเก่งขึ้นได้ภายในวันเดียว แต่สามารถทำให้ตัวเองเก่งขึ้นทุกวันได้
พัฒนาตัวเองแค่วันละ 1% ตลอดทั้งปี คุณจะเก่งขึ้นได้อย่างน้อย 300% แล้ว นั่นคือ ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มาก พอ 1 ปีผ่านไปลองหันกลับมามองตัวเองจากวันที่เริ่มต้น คุณจะแทบไม่เชื่อตัวเองเลย

9. เทรนตาตัวเองให้เห็นแต่สิ่งดีๆ
เป็นเรื่องปกติมาก และแปลกมากๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยมองเห็นเลยว่าตัวเองมีมากแค่ไหน
ไม่รู้จักขอบคุณสิ่งที่มี แต่ดันไปโฟกัสสิ่งที่ขาด ยิ่งรู้สึกขาด ยิ่งขาดหนักขึ้น แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่กับความขาดอย่างนั้นตลอดไป
.
เปลี่ยนใหม่ในตอนนี้เลยค่ะ
ฝึกมองให้เห็นความสวยงาม และ ความดีรอบๆ ตัว ขอบคุณทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ขอบคุณเรื่องดีๆ ที่มีคนทำให้กับคุณ ขอบคุณ แม้เพียงสิ่งเล็กน้อย
.
ฝึกชมคนด้วยความจริงใจ มองเห็นและสำนึกกตัญญูรู้คุณ ไม่มีต้นทุนอะไรเลย แต่ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม สิ่งดีๆ ที่คุณมองเห็นและสำนึกรู้คุณ จะผลักดันให้เกิดสิ่งดีๆ ขึ้นอีกมากมาย
.
แล้วชีวิตของคุณจะมีแต่ความสุข โลกทั้งใบจะมีแต่สิ่งสวยงาม ด้วยหลักการง่ายๆเลย คือ เทรนตาตัวเองให้เห็นแต่สิ่งที่ดี
10. ความสุข คือ เป้าหมายหลักของชีวิต
เรื่องสุดท้ายที่เอวาอยากฝากไว้ใน 10 เรื่องที่เปลี่ยนชีวิตนี้ ขอให้จำไว้ว่า งานแสวงหาความสุขใส่ตัว คือ เป้าหมายหลักของมนุษย์ทุกคน
.
ถ้าความสุข ไม่ใช่เป้าหมายของคุณ ใครจะมารับผิดชอบสิ่งนี้ให้คุณได้ล่ะคะ?
.
ที่ทุกวันนี้คนเราวิ่งวุ่นหาเงิน นำไปซื้อสิ่งของ ซื้อวัตถุ ใช้จ่ายปรนเปรอตัวเอง เพราะคิดว่า ถ้าเรามีสิ่งนั้นๆแล้ว เราจะมีความสุข
ตราบใดที่ทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำแล้วสบายใจ ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เบียดเบียนตัวเอง ก็ทำไปเถอะค่ะ
.
ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบความสุขทั้งหมดของชีวิตตัวเอง
คุณมอบน้ำใจ ให้สิ่งดีๆ ให้แนวคิดหรือแนวทาง ช่วยเหลือในกิจกรรมที่คุณยินดีและเต็มใจได้ แต่ไม่ได้มีหน้าที่ นำความสุขของคนอื่นมาเป็นภาระรับผิดชอบ
.
คุณมีหน้าที่รับผิดชอบความสุขของตัวเอง คนอื่นก็มีหน้าที่รับผิดชอบความสุขของตัวเค้า
.
คนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องมีภาระของความสุขให้คุณ
คุณก็ไม่มีภาระของความสุขให้คนอื่น
ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบความสุขของแต่ละคน
.
จงทำตัวให้เก่งขึ้น ดีขึ้น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ จงแผ่กระจายความสุขไปรอบๆตัว จงมีชีวิตเพื่อสร้างประโยชน์และสร้างคุณค่า
ในขณะเดียวกัน ก็มีความสุขสุดๆ ไม่โฟกัสความทุกข์ เปลี่ยนความหมายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เป็นเรื่องที่ดีเสมอ
.
ความสุขสร้างได้ง่ายๆ สร้างได้ด้วยตัวคุณเอง
ความสุขหาง่ายจริงๆ ถ้าคุณมองหา ก็จะเจอค่ะ
ดาวน์โหลดบทความไว้อ่าน คลิกที่นี่
ดูคลิปวีดีโอ Youtube คลิกที่นี่
ขอให้ทุกวันของคุณ คือ วันแห่งความก้าวหน้าค่ะ
รัก
ครูเอวา จิตสุทธิภากร