เมื่อถามมา เอวาก็หาคำตอบมาให้ เอวาจะเล่าให้ฟัง และจะบอกวิธีการหางานที่รักในเจอใน 5 Step เชื่อว่าวันนี้คำถามที่คุณกำลังสงสัยอยู่จะหมดลงไปได้อย่างแน่นอน

.

เอวาเริ่มต้นแบ่งปันประสบการณ์การเป็น Mompreneur มาหลายปีแล้วค่ะ เป็นงานที่มีความสุข เป็นงานที่ทำให้ชีวิตมีความหมายมาก

จริงๆแล้ว งานนี้ก็ไม่ได้เป็นงานแรกในชีวิต และยังไม่รู้ว่าจะเป็นงานสุดท้ายหรือเปล่า รู้แค่ว่าวันนี้ยังมีความสุข ยังอยากตื่นขึ้นมาทำ แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ

. 

คุณน่าจะเคยได้ยินใครหลายคนพูดว่า เมื่อได้ทำงานที่รัก เมื่อทำงานนั้นอย่างตั้งใจ แล้ววันนึงก็จะประสบความสำเร็จ

คุณต้องเคยได้ยินมาแล้วแน่นอน

.

ใช่ค่ะ มันเป็นความจริงพันเปอร์เซ็นต์ ที่ใครได้ทำงานที่รัก คนคนนั้นจะประสบความสำเร็จแน่นอน

ถ้าได้เริ่มต้นด้วยการทำงานที่รัก แล้วคิดถึงว่าลูกค้าจะได้ประโยชน์อะไร ลูกค้าจะได้รับคุณค่าอะไรให้มากที่สุด

คนคนนั้นจะต้องมีคนสนับสนุนสิ่งที่เค้าทำอย่างมหาศาลแน่นอน

.

คุณรู้ว่าทำงานที่รัก ดีกว่าทำงานที่ไม่รักแน่นอน

คุณรู้ว่าความรวย ดีกว่าความจนแน่นอน

คุณรู้ว่าควบคุมเวลาของตัวเองได้ ยังไงก็ดีกว่าต้องเอาเวลาไปถวายให้คนอื่นแน่นอน

.

คุณก็รู้ ทุกคนก็รู้

แต่ทำไมมีเพียงแค่ไม่ถึง 5% ของประชากรในโลกนี้เท่านั้น ที่มั่งคั่งร่ำรวยมีความสุขจากงานที่รักได้

สาเหตุที่คนส่วนใหญ่ยังทำงานที่รักไม่ได้ มันมีอยู่ประมาณ 2 ข้อนี้ค่ะ 

สาเหตุที่ 1 คุณทำงานเพื่อเงิน

ถ้าคุณทำงานเพื่อเงิน คุณจะได้มันตอนสิ้นเดือน

แต่ถ้าคุณทำงานเพื่อความสุข คุณจะได้รับทุกวันทุกเวลา

.

ชีวิตเอวาก็ต้องใช้เงินไม่ต่างจากคุณค่ะ เป็นผู้หญิงมีค่า ค่ากินอยู่ จิปาถะร้อยแปด

แต่เชื่อเถอะนะว่า เงินมันเป็นแรงจูงใจที่ต่ำที่สุดในชีวิตมนุษย์แล้ว

ที่หลายคนยังทนทำงานนี้อยู่ทั้งที่อยากออกแทบขาดใจ แต่ออกไม่ได้ เพราะเป็นผู้หญิงมีค่านี่แหละ ใช่มั้ยคะ?

.

แล้วถามว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มันเป็นภาระอยู่ในทุกวันนี้ ตอนที่ไปเซ็นกู้ ตอนที่ไปรูดบัตรผ่อน ก็ไม่มีใครเค้าบังคับคุณนี่นา

ก็ไปซื้อมาเพราะอยากได้ ของมันต้องมี เพราะควบคุมอารมณ์ไม่ได้กันทั้งนั้น

.

เอวาเข้าใจดีนะคะ เพราะเคยผ่านช่วงเวลาซื้อของผ่อนของด้วยบัตรเครดิต 0% มาเหมือนกัน

สุดท้ายก็ต้องขายของชิ้นนั้นไป เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ วงจรอุบาทว์นี้อย่าเข้าไปข้องแวะเชียว!!

.

คำแนะนำที่เอวาอยากให้ในวันนี้ คือ ทำงานที่ต้องทำต่อไปค่ะ ไม่ต้องออก

เงินสำคัญที่สุดตอนที่มันไม่มีนี่แหละ ไม่ใช่ว่าอ่านบทความนี้แล้วรีบกระโดดไปเซ็นใบลาออกแล้วจะไปทำงานที่รักทันที ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ

เพราะถ้าคุณไม่มีเงิน คุณจะคิดอะไรไม่ออกหรอก เชื่อสิ

.

ตอนนี้ขอให้คุณเริ่มต้นคิดถึงงานที่รัก เริ่มต้นคิดว่าถ้าชีวิตฉันไม่ต้องห่วงเรื่องเงินอีกแล้ว ฉันจะทำงานอะไร?

งานนั้นเป็นแบบไหน...

แต่ละวัน 24 ชั่วโมงทำอะไรบ้าง....

ให้เริ่มแบบนี้ก่อน ส่วนวิธีการเดี๋ยวเอวาบอกให้ค่ะ ค่อยๆ ตามมานะคะ

สาเหตุที่ 2 คุณรอไม่ได้

พระพุทธเจ้าบอกว่า ทุกข์สูงสุดของมนุษย์ทุกคน คือ การยึดติด

คุณยึดติดกับความสำเร็จมากเกินไป คุณยึดติดกับผลลัพธ์มากเกินไป อยากให้มันเกิดขึ้นวันนี้ นาทีนี้เลย -ใครก็อยากค่ะแบบนั้น-

คุณพ่อสอนเอวาว่า คนรวยเค้ารอได้ เช่น ไม่ซื้อของในวันนี้ รอให้เก็บออมเงินครบก่อนแล้วค่อยไปซื้อ หรือรอให้เงินปันผลจากการลงทุนมาก่อนแล้วค่อยเอาเงินปันผลไปซื้อ 

แบบนี้ชีวิตคุณไม่มีทางเดือดร้อนเรื่องเงินแน่นอน

.

งานที่รัก ก็เช่นเดียวกัน กว่าจะบ่มเพาะให้คนรู้จัก แล้วเค้าก็มาซื้อ มาสนับสนุน ต้องใช้เวลา มันไม่มีปาฏิหาริย์อะไรทั้งสิ้นในโลกนี้

ให้คุณลงมือทำไปเรื่อยๆ ทำในวิธีที่ถูกต้อง ที่เหลือก็แค่รอเวลา ที่สำคัญ คือ ปล่อยวางผลลัพธ์ 

แค่ทำต้นเหตุให้ดี ผลลัพธ์ก็การันตีตัวมันเองอยู่แล้ว

.

วันนี้เอวาได้เตรียม 5 วิธีการหาให้เจอว่าอยากทำอะไร แล้วหารายได้จากสิ่งนั้น Step by Step เราค่อยๆ ไปด้วยกันแบบเป็นขั้นเป็นตอนเลยนะคะ

และเอวาก็ยังเตรียม Workbook ไว้ให้คุณด้วย นั่นก็คือ Workbook : 10 สุดยอดคำถามค้นหาตัวตน

เป็น 10 คำถามที่เจ๋งมากๆ เอวาได้ผ่านมาแล้ว ได้นั่งตอบคำถามอย่างจริงจังมาแล้ว จึงได้มีชีวิตอย่างทุกวันนี้ได้

.

เพราะ "ตัวคุณเอง" คือ คนที่คุณต้องรู้จักให้ดีที่สุดในโลกนี้

ถ้าที่ผ่านมายังสับสนจากหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่เป็นไรค่ะ !! มาเริ่มต้นกันใหม่ในวันนี้

จงใช้เวลากับตัวเอง ให้เวลากับหัวใจ ให้เวลากับความคิด เพื่อจะได้เข้าใจตัวเอง และพร้อมเติบโตไปเป็นแสงสว่างอีกดวงหนึ่งที่ช่วยนำทางผู้คนต่อไปได้ อย่างรวดเร็วค่ะ

1. ค้นหาจุดเด่น

อะไรคือสิ่งที่ถนัด คล่องแคล่วกว่าคนอื่น

อะไรคือสิ่งที่อยากรู้เพิ่ม อยากเรียนเสริม ยิ่งอ่าน ยิ่งรู้ยิ่งมีความสุข

เริ่มต้นคิดในวันนี้เลย แล้วทำมันเป็นงานอดิเรกไปก่อน

เอาเวลาที่เคยทำเรื่องไร้สาระ หรือ เดินช็อปปิ้งใช้เงิน หรือ นั่งเล่นมือถือฆ่าเวลา เอาเวลานั้นมาเริ่มต้นทำงานที่รัก  คุณจัดเวลาได้แน่นอน ถ้าต้องการมันมากพอ

.

อีกเคล็ดลับที่ช่วยหาจุดเด่นของตัวเองได้ คือ ดูจากคนรอบข้าง ว่าเค้าพูดถึงคุณว่าเก่งเรื่องอะไรบ้าง?

คนชอบมาถามเรื่องอะไรจากคุณ?

คุณเป็นที่พึ่งของใครในเรื่องไหนบ้าง?

.

ทักษะที่คนเราเก่งมีเยอะแยะค่ะ

พูดเก่ง

เขียนเก่ง

ร้องเพลงเก่ง

ขายของเก่ง

ทำกับข้าวอร่อย

ทำงานบ้านเรียบร้อย

เลี้ยงลูกเก่ง

วาดรูปเก่ง

ทำบัญชีเก่ง

ประสานงานเก่ง

เล่นกีฬาเก่ง

เป็นคนมีวินัย จัดเวลาได้ดี ฯลฯ

เยอะมาก หาง่ายมากๆ เลยค่ะ ในตัวคุณต้องมีเรื่องที่เก่งอย่างน้อยซักอย่างสองอย่างแหละ เอวามั่นใจ

.

แล้วสมัยนี้ Facebook หรือ แฟนเพจ ก็เป็นที่แจ้งเกิดคนเก่งในหลายๆ สาขาอาชีพ

ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดัง จึงจะมีคนติดตามได้ ยุคนี้สื่อได้เปลี่ยนไปแล้ว สื่ออยู่ในมือของทุกคน

.

เมื่อความเก่งของคุณแก้ปัญหาให้กับผู้คนได้ ความเก่งของคุณก็จะเป็นที่ต้องการ 

เมื่อทำไปเรื่อยๆ ทำด้วยความรัก อยากให้บริการลูกค้า อยากช่วยลูกค้าอย่างดีที่สุด นี่แหละคือหนทางแห่งรายได้

ข้อนี้เอวาการันตีค่ะ

2. เข้าใจจุดด้อย

มีสิ่งไหน งานอะไร หรือ กิจกรรมไหนบ้าง ที่ไม่ชอบทำ

เคยถูกบังคับให้เรียน ให้ศึกษา ให้ทำก็ทำได้ แต่ก็ไม่เก่ง ทำไม่ได้ดีเท่าไหร่ มีบ้างมั้ยคะ ?

แล้วสิ่งที่ไม่เก่งอันนี้ ฉันจ้างคนอื่นทำได้มั้ย ถ้าจ้างได้ จ้างไปเลย

.

เช่นของเอวา คือ เรื่องการแต่งภาพใน photoshop นี่แหละค่ะ ไม่ชอบ เรียนยังไงก็ทำไม่ได้ แต่มันจำเป็นต้องใช้ ต้องทำรูปสวยๆ ลงในแฟนเพจ ก็จ้างไปเลยค่ะ แล้วเอาเวลามาเขียนบทความอย่างที่ชอบดีกว่า

ระหว่างที่เข้าใจจุดด้อยตรงนี้แล้ว เอวาก็หาว่ามีโปรแกรมอื่นที่ใช้แต่งรูปได้มั้ย

เมื่อคุณหา คุณก็เจอ

มีเยอะแยะ เดี๋ยวนี้ในมือถือก็ทำได้ เช่น แอป Snapseed, VSCO, Line Camera พวกนี้แต่งรูปใส่ตัวหนังสือได้ง่ายๆ เลยค่ะ 

ส่วนโปรแกรมที่เอวาใช้ประจำ คือ Microsoft Powerpoint ซึ่งเป็นโปรแกรมง่ายๆ ที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ใช่มั้ยคะ รูปทั้งหมดที่คุณเห็นเอวาก็ใส่ตัวหนังสือ ครอบรูป ด้วยโปรแกรมนี้แหละ เดี๋ยวนี้เลยไม่ต้องจ้างใครทำรูปให้แล้ว ทำเองนี่แหละง่ายดี

.

แต่ถ้าจุดด้อยนี้มันสำคัญกับความก้าวหน้าของฉัน ฉันต้องรู้และเก่งให้ได้ เพราะมันเป็นบันไดไปสู่ความก้าวหน้าในอาชีพ ไม่ชอบ ไม่ถนัด ก็ต้องพัฒนามันให้ได้

.

เช่น เมื่อก่อนเอวาพูดไม่ได้เลย กลัวการพูดมากๆ แต่มันสำคัญอ่ะ เพราะเรามีความรู้ดีๆ ที่อยากสอน อยากบอกต่อ ถ้าไม่พูด แล้วสิ่งดีๆ จะไปถึงคุณได้ยังไง 

ก็ต้องตัดสินใจและฝึกฝนวันละนิดค่ะ ตอนนี้ก็สบายๆ พูดได้คล่องกว่าเดิมเยอะ

.

เชื่อมั้ยคะว่าจุดด้อยที่เป็นเรื่องสำคัญ มันจะเหลืออยู่แค่ไม่กี่เรื่องหรอกค่ะ

คุณก็แค่เอาเวลาส่วนใหญ่ไปทุ่มเทให้กับเรื่องที่เก่ง เรื่องที่ชอบ เรื่องที่ถนัด แล้วแบ่งเวลาแค่วันละ 1 ชั่วโมงก็พอ มาพัฒนาจุดที่ยังไม่เก่งแต่สำคัญ

3. รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร

คุณมีเป้าหมายชีวิตหรือยังคะ? ถ้ายังต้องรีบลงมือเขียนด่วนๆ เลย

เป้าหมายสำคัญมากนะคะ ถ้าไม่มีเป้าหมาย ชีวิตคุณไร้ทิศทางแน่นอน

หลายครั้งที่เอวาเกิดสับสนในตัวเอง สงสัยว่าสิ่งที่ทำมันมาถูกทางแล้วหรือยังวะ? 

เอวากลับไปอ่านเป้าหมายก่อนเลยเป็นอันดับแรก

.

ถ้าเป็นไปได้ หยิบเป้าหมายมาทบทวนบ่อยๆ ยิ่งอ่านทุกวันได้ยิ่งดี 

มันจะมีบางครั้งที่คุณลืมสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ จะมีบางช่วงที่หลุดโฟกัส

การกลับมาอ่านเป้าหมาย คุณจะรู้ทันทีเลยว่า โอเค ใช่ นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ

.

ตรึงเป้าหมายไว้เหมือนเดิม ส่วนวิธีการเดินไปถึงเป้าหมายอันนี้ปรับเปลี่ยนได้ ลองหลายๆ ทางเดินได้

.

หนังสือ 1 เล่ม มีหลายบท มีบทที่ตื่นเต้น มีบทที่น่าเบื่อ มีบทที่สุขสมหวัง มันก็เหมือนชีวิตของคนแหละค่ะ

ต้องผ่านเรื่องราวหลายๆ อย่างกว่าจะไปถึงตอนจบ -ซึ่งแต่ละตอนจบก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องอื่นที่กำลังเกิดขึ้น-

.

เวลาที่ผ่านมา ประสบการณ์ที่ผ่านไป ถือว่าเป็นหลายๆ บทของหนังสือ

ไม่มีประสบการณ์ไหนที่สูญเปล่า ถ้าคุณมองว่ามันเป็นบทเรียน

4. อ่านหนังสือ/ฟังหนังสือเสียง/เรียนเพิ่ม

อย่าเสียเวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเองทุกอย่าง เมื่อคุณสามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ของคนอื่น 

.

เอวาให้ความสำคัญกับการเรียนมากๆ ค่ะ ทั้งอ่านหนังสือ ทั้งฟังหนังสือเสียง ทั้งเข้าเรียนสัมมนา 

เคยซื้อไว้แล้ว วันไหนอยากกลับไปทบทวนก็เปิดฟังอีกครั้ง คุณจะเหมือนได้ฟังความรู้ใหม่ยังกับว่าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย 

เพราะว่าตัวเราเติบโตขึ้นไงคะ พอได้เรียนแล้วออกไปลงมือทำ คุณก็จะเก่งขึ้นระดับหนึ่งแล้ว พอกลับมาเรียนก็เหมือนได้เพิ่มความรู้อีกครั้ง

.

บอกได้เลยว่า คุณจะประหยัดค่าใช้จ่ายอะไรก็ได้ แต่ การลงทุนเพื่อความรู้ ขอให้เป็นเรื่องเดียวที่อย่าคิดประหยัดนะคะ

มันช่วยได้ดีมากๆ 

.

การตั้งเป้าหมาย การทำงานที่รักพวกนี้  ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอาไปเล่าให้ใครฟังเยอะแยะ

ยิ่งเจอคนเยอะ ยิ่งต้องอธิบายเยอะ พูดไปเค้าก็ไม่เข้าใจ และอาจทำให้คุณสับสนยิ่งกว่าเดิม หรือ ดันไปเจอกับพวกนักดับฝัน บอกว่า โอ๊ย ทำไม่ได้หรอก ทีนี้ชีวิตคุณเศร้าเลยนะคะ

.

อยู่นิ่งๆ ฟังเสียงหัวใจตัวเอง

อ่านหนังสือ ฟังหนังสือเสียง เรียนสัมมนา เพิ่มความรู้ เพิ่มวิธีการให้ตัวเอง พอแล้วค่ะ 

5. ลองทำเลยเดี๋ยวก็รู้เอง

ไม่มีใครฟันธงได้หรอกว่า ไปทำแบบนั้นสิ ไปทำตรงนี้สิ ทำแบบนี้สิ รับประกันผล 100% -ไม่มีใครสามารถทำแบบนั้นได้-

ชีวิตและอนาคตของคุณ คุณต้องกำหนดเอง จะปล่อยให้ผ่านไปตามสายลม จะปล่อยให้ขึ้นอยู่กับคำทำนายของคนอื่นไม่ได้

.

พอเอวาสงสัยว่า เฮ้ย ทำอันนี้มันจะดีมั้ยนะ? ง่ายที่สุด กระโดดลงไปทำเลยค่ะ

ทำวันแรก เป็นไง มีความสุขมั้ย? -ยังตอบไม่ได้-

ทำต่อวันที่ 2 ทำต่อวันที่ 3 ทำต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีความสุขอยู่

.

จำไว้นะคะว่า...ความสุขต้องมาก่อนเสมอ ต้องมีความสุขในวันนี้เลย มีความสุขทันทีที่ได้ทำ

.

มีหลายงานที่เอวาลองทำดู ปรากฏว่า ไม่มีความสุข ถ้าให้ทำแบบนี้ทุกวัน ฉันตายแน่!!! เอวาก็ไม่ฝืนนะคะ

หาหลักฐานใหม่ค่ะ ว่ามีคนประสบความสำเร็จจากงานในฝันแบบเดียวกับฉันมั้ย 

เอวาเจอเยอะแยะเลยว่ามี Mompreneur ทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จมีเงินล้าน (และมีหลายล้าน) จากงานที่รัก

.

ถ้าคุณหา คุณจะเจอ

คุณจะเจองานที่สอดคล้องเป้าหมาย งานที่คุณมีความสุขทุกนาทีที่ได้ทำ งานที่คุณรัก อยากอยู่กับมันทั้งวัน อยากเก่งขึ้น อยากรู้เพิ่ม คิดถึงมัน คุยถึงมันตลอด (เอวาไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัว ว่างเมื่อไหร่ต้องชวนสามีคุยเรื่องงาน จนสามีบอกว่า ขอพักประชุมแป๊บนึงได้มั้ย 5555)

.

ความสุขเป็นเครื่องนำทางไปสู่ความสำเร็จ

ความสุขเป็นตัวเดียวที่จะทำให้คนเราอยากใช้ชีวิตให้ดีขึ้น

ฟังเสียงหัวใจตัวเอง หัวใจดวงนี้รักคุณมากที่สุด ไม่เคยหลอกคุณเลย จงฟังเค้าให้มากๆ นะคะ

วิธีการหาตัวตนเพื่อค้นพบงานที่รัก ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ยากอะไรเลยค่ะ

 แค่เริ่มต้นจากตนเอง ถามหัวใจตัวเองอย่างจริงจัง หาจุดเด่น เข้าใจจุดด้อย ทบทวนเป้าหมาย เรียนรู้เพิ่ม และลงมือทำ 

.

เราปล่อยให้งานที่ไม่รักกัดกินหัวใจมานานแล้วค่ะ ในเมื่อคุณเลือกได้ ทำไมไม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองล่ะค่ะ

อย่าปล่อยชีวิตให้ดำเนินไปตามสัญชาติญาณ

ชีวิตของคุณ ไม่ได้เกิดมาแค่ใช้หนี้และเหลือเงินติดตัวอยู่นิดหน่อย

.

เมื่อได้ทำงานที่รัก ต่อให้ทำงานอย่างหนัก แต่คุณก็ยังรู้สึกสงบสุขอยู่ภายใน

อย่าปล่อยให้ความกลัวมาขวางทางไม่ให้คุณได้เริ่มต้น

อย่าเลื่อนความสุขไปอยู่ที่เวลาหลังเกษียณ อย่าเลื่อนความสุขไปอยู่แค่วันเสาร์อาทิตย์ เพราะคุณสามารถมีมันได้ตอนนี้เลย

.

เมื่อถึงวันนั้น ความสุข ความสำเร็จ ความมั่งคั่ง ก็จะเข้ามาหาคุณได้พร้อมๆกัน  

มีชีวิตที่แสนดี จากโลกนี้ไปพร้อมกับเป็นตำนาน

คุณสามารถได้สิ่งดีๆ ทุกอย่าง ไม่เห็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเลยค่ะ

เอวาเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Workbook  เรื่อง 10 สุดยอดคำถามค้นหาตัวตน 

ตอนที่เอวาค่อยๆ เขียนคำตอบของ 10 คำถามนั้น รู้เลยว่า ที่ยังมาได้ไม่ไกลจากจุดเดิมมากนัก 

เพราะอะไรรู้มั้ยคะ? 

เพราะไม่เคยเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้มาก่อนเลย

เพราะไม่เคยเปิดโอกาสได้คุยกับตัวเองจริงๆจังๆ มาก่อนเลย

.

เรามองเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ

ก็รู้สึกดี เริ่มมีแรงบันดาลใจ และอยากสำเร็จได้เหมือนๆกับเค้าบ้าง

.

เราดูคนสำเร็จเป็นตัวอย่างที่ดีได้

แต่ความสำเร็จทั้งหมดทั้งมวลในชีวิตนั้น เราต้องสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของตัวเองค่ะ

.
เอวาอยู่กับลูก และ ทำงานที่บ้านมา 3 ปีแล้ว ทุกวันมีแต่เรื่องสนุกให้เรียนรู้ 

​มีผลงานต่างๆ ที่ช่วยให้คุณเป็น Mompreneur ได้ง่ายขึ้น

.

สำหรับ Workbook เรื่อง 10 สุดยอดคำถามค้นหาตัวตน นี้ เอวาอยากให้คุณนั่งลงตอบคำถามทั้ง 10 อย่างจริงจัง

หลังจากคุยกับตัวเอง และเข้าใจตัวเองแล้ว ควรทำอย่างไรต่อไปดี..? 

ลองเริ่มต้นด้วย Facebook สิคะ ​Facebook เป็น community ที่ใหญ่มาก ยังคงเป็น Social Media ตัวหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญมากในประเทศไทยค่ะ 

เริ่มต้นแบ่งปันสิ่งที่คุณชอบและถนัดลงในนั้นนะคะ

.

เพราะเมื่อคุณได้เริ่มให้ คุณกำลังเปิดใจพร้อมที่จะรับอะไรบางอย่างแล้วล่ะค่ะ

ชีวิตเป็นดังเช่นกระจกสะท้อน

อยากให้ใครทำดีด้วย คุณก็ต้องเริ่มพูดดี ทำดี กับเค้าก่อน

อยากได้รับ ก็ต้องให้ก่อนค่ะ โลกมันทำงานแบบนี้